ดลมนัส กาเจ
“พอขนุนได้ผลขนาด 1.5-3 กก.ก็เก็บเกี่ยวขายได้แล้ว ไม่ต้องไปบำรุงต้น และผลอะไรมาก ต้นขนุน 1 ต้น จะมีรายได้ที่เป็นกำไรอย่างน้อยต้นละ 1,000 บาทต่อปี หรือไร่ละ 3.5 หมื่นบาท ต่อไร่ ถือว่ารายได้ดีแต่ถ้าปล่อยให้ผลแก่จะมีรายได้มากกว่าอีก แต่ต้องดูแลมากขึ้น”
ในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด ปราณบุรี และหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นับเป็นแหล่งใหญ่ในการผลิตขนุนในประเทศไทย มีทั้งพันธุ์ทองประเสริฐ เพชรราชา และมาเลย์ ทำให้พ่อค้ามีการตั้งล้งรับซื้อทั้งขนุนสดผลอ่อน และผลแก่ อย่าง ประสิทธิ์ สกุณี ก็อีกคนหนึ่งที่ตั้งล้งรัฐซื้อขนุน เน้นขนุนสดผลอ่อน ที่หมู่ 5 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้อนโรงงานแปรรูปวันละ 2-5 ตัน ปรากฏว่าสร้างรายให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี พื้นที่ 1 ไร่ มีรายอย่างน้อย 3.5 หมื่นบาท ในขณะที่การดูแลไม่ยุงยากนัก
ประสิทธิ์ บอกว่า ชีวิตเติบโตมาก็ช่วยน้า รับซื้อขนุนจากเกษตรตาม อ.ต่างๆใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สามร้อยยอดบริเวณที่ตั้งล้ง จะมีสวนขนุนจำนวนมาก ทั้งรายย่อยขนาด 10-30 ไร่ และรายใหญ่ที่มีพื้นที่ปลูกนับร้อยไร่ ในแต่วันวันจะรับซื้อขนุนส่วนใหญ่จะเป็นผลอ่อนวันละ 2-5 ตันในราคา กก.ละ 4-6 บาท ส่วนหนึ่งแปรรูปเองคือปอกเปลือก สับเป็นชั้นส่งโรงงาน และส่วนหนึ่งส่งไปผลทั้งลูกที่ซื้อมาจากเกษตรกร
ส่วนขนุนอ่อนทั้งหมดที่โรงงานรับซื้อนั้น จะเป็นสายพันธุ์ทองประเสริฐ เพชราราช และมาเลย์ ทางโรงงานจะซื้อแบบไม่อั้น มีเท่าไรขายได้หมด โดยทางโรงงานจำไปแปรรูปเป็นขนุนอ่อนบรรจุกระป๋องสำหรับนำไปอาหารประเภทกับข้าว คือนำไปทำแกง ทำซุป ยำ สุดแต่ผู้บริโภคชอบ ขายทั้งใน และส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย
“โดยทั่วไปการทกสวนขนุนในพื้นที่ 1 ไร่จะปลูกต้นขนุนได้ 35 ต้น หากเกษตรกรขายผลอ่อน ซึ่งดูแลไม่มากนัก พอขนุนได้ผลขนาด 1.5-3 กก.ก็เก็บเกี่ยวขายได้แล้ว ไม่ต้องไปบำรุงต้น และผลอะไรมาก ต้นขนุน 1 ต้น จะมีรายได้ที่เป็นกำไรอย่างน้อยต้นละ 1,000 บาทต่อปี หรือไร่ละ 3.5 หมื่นบาท ต่อไร่ ถือว่ารายได้ดีแต่ถ้าปล่อยให้ผลแก่จะมีรายได้มากกว่าอีก แต่ต้องดูแลมากขึ้น” ประสิทธิ์ กล่าว (รายละเอียดตามกลิป)
สอดคล้องกับการบอกเล่าของ สมคิด เรืองโรจน์ เกษตรกรผู้ปลูกขนุนที่บ้านน้องนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า ปลูกขนุนกว่า 10 ไร่ เน้นขายผลสดอ่อน เพราะไม่มีเวลาในการดูแลมากนัก เนื่องจากต้องทำไร่สับปะรดด้วย ทุกวันนี้ต้องเก็บเกี่ยวผลขนุนขายทุกอาทิตย์ ครั้งละ 2-3 ตัน ขายในราคา กก.ละ 4-6 บาท เฉลี่ทั้งปีจะมีรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วตกราว 5 แสนบาท
ก็นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดีอีกชนิดหนึ่ง