เกษตรกรได้เฮ การกระทรวงทรัพย์ฯการบังคับ หันหลังกลับแบบ 360 องศา จากเดิมจับกุมผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่า ปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นลักษณะส่งเสริมการอยู่ร่วมกันระหว่างป่ากับชุมชน หลังจากที่สภาพเกษตรกรฯ เสนอให้มีการปลูกไม้เศรษฐกิจได้ เน้นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ตัดง่าย ขายง่าย
พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตามที่สภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เสนอให้มีการปลูกไม้เศรษฐกิจได้นั้น ทาง ทส.กำลังแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2489 มาตรา 7 คาดว่าจะนำเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติไม่เกินสิ้นเดือนตุลาคม 2561นี้ เพียงแต่จะเพิ่มเติมเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมพื้นที่ ส.ป.ก.และพื้นที่อนุญาตอื่นๆด้วย ซึ่งทางคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.)จะได้เปิดโอกาสให้ดำเนินการใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
สำหรับข้อติดขัดในการทำธุรกิจต่อเนื่องจากไม้ จึงต้องมีการปรับเรื่องการอนุญาตให้มีความง่ายสะดวก รวดเร็วขึ้น และนั่นเป็นนโยบายของรัฐบาลในการอำนวยความสะดวกทุกกระทรวงต้องอำนวยความสะดวกให้ การจดทะเบียนหรืออนุญาตตามกฎหมายจะไม่เกิน 15 วัน แต่ต้องคุยกับพี่น้องเกษตรกรว่าทำอย่างไรถึงจะสะดวกรวดเร็วและควบคุมเท่าที่จำเป็น หมายความว่าต่อไปนี้ใครมีที่กรรมสิทธิ์สามารถปลูกต้นไม้ได้ ตัดได้ ให้เลือกปลูกไม้ที่มีอนาคตตรงกับความต้องการตลาด หลักก็คือ “ ปลูกง่าย ตัดง่าย ขายง่าย ” ทส.และรัฐบาลไม่ได้ต้องการให้เกษตรกรและพี่น้องประชาชนยากจนไปตลอดชีวิต การแก้กฎหมายด้วยหวังว่าไม้จะสร้างเศรษฐกิจยกระดับรายได้คนไทยทุกคนให้มีฐานะดีขึ้น สูงขึ้นจึงขอให้ลุกขึ้นมาดูแลพื้นที่ของตัวเองแล้วก็ปลูกไม้มีค่า
[adrotate banner=”3″]
“ที่ผ่านมาของ ทส.เมื่อก่อนจะเป็นการบังคับ จับกุมผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่า ปัจจุบัน ทส.หันหลังกลับแบบ 360 องศาปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็นลักษณะส่งเสริมการอยู่ร่วมกันระหว่างป่ากับชุมชน ซึ่งจะทำให้เมื่อเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนจะเปลี่ยนเรื่องคุยจากเรื่องการบุกรุกที่ดิน บทกำหนดโทษ เป็นการคุยกันถึงเรื่องการปลูกอะไรดี เพาะพันธุ์อย่างไร ขายอย่างไร ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับข้าราชการที่ปลูกฝังกันมานานให้เปลี่ยนแนวคิดตามนโยบายของรัฐบาล” พลเอกสุรศักดิ์ กล่าว
ด้านนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ตามข้อเสนอของสภาเกษตรกรฯเพื่อให้ฟื้นฟูป่าและให้ป่าสร้างเศรษฐกิจฐานรากซึ่งจะสามารถเปลี่ยนจากสภาพปัญหาการบุกรุกมาแปรเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยรัฐบาลควรปรับแก้กฎระเบียบที่ไม่เอื้อเพื่อให้เป็นไปได้จริงตามนโยบาย ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีนโยบาย “เปิดฟ้า เปิดป่า”กันแล้ว จึงขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ หากมีการแก้ตัวบทกฎหมายแล้วเสร็จ สภาเกษตรกรฯจะกระจายข้อมูลสู่พื้นที่จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านและเกษตรกร ทส.ก็จะใช้วิธีการกระจายข้อมูลข่าวสารทางหอกระจายข่าวและอินเทอร์เน็ตของกระทรวงมหาดไทยด้วย