หนุ่มวิศวกรคนพะเยาหันเหชีวิตทิ้งชีวิตมนุษย์เงินเดือนเมืองกรุง เข้าสวนปลูกเสาวรสแบบเกษตรอินทรีย์ มุ่งพัฒนาพันธุ์เสาวรสเองจนได้ผลผลิตลูกใหญ่เนื้อเต็ม หวาน สร้างรายได้ดี 2 หมื่นบาทต่อเดือน…
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปไร่เสาวรสของ นายอัฐสิทธิ พรหมจักร หนุ่มวัย 43 ปี ที่เรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า ลัดวงจรชีวิตหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง หันมาเอาดีด้านเกษตรอินทรีย์แทนการเป็น มนุษย์เงินเดือน มาปลูกเสาวรสสายพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรมเอง เป็นสายพันธุ์เชียงม่วน 9 ที่ให้ความหวานและลูกใหญ่ โดยผลผลิตในแต่ละเดือนสามารถสร้างรายได้ต่อเดือนประมาณ 20,000 บาท ถือว่าทำรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
นายอัฐสิทธิ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนเองเรียนจบใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานในสาขาอาชีพที่ตนเองเรียนจบมานานกว่าสิบปี กระทั่งเกิดจุดกระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนชีวิต บิดา มารดา ป่วย และอายุมากขึ้น ไม่มีคนดูแล และมีความคิดที่อยากกลับบ้านมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จึงลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลบิดามารดา ป่วย และอายุมากขึ้น ไม่มีคนดูแล และมีความคิดที่อยากกลับบ้านมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จึงลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลบิดา มารดา และได้เดินตามรอยเท้าของบิดาที่ทำการเกษตรปลูกผลไม้ เช่น ลำไย และตนเองมีความคิดที่ปรับพื้นที่สวนบางส่วน มาปลูกเสาวรสสายพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรมเอง เป็นสายพันธุ์เชียงม่วน 9 ดูแล้วเหมาะสม และเป็นวิธีสร้างรายได้ จึงเริ่มเรียนรู้ด้วยตนเอง ศึกษาค้นหาจากหลายช่องทางจนได้มาปลูกเสาวรสสายพันธุ์ที่ตัดต่อพันธุกรรมเอง จึงเริ่มนำออกจำหน่าย ด้วยรสชาติหวาน หอม ลูกใหญ่ จึงถูกใจคนที่ชื่นชอบเสาวรสอย่างมาก
เจ้าของสวนเสาวรสเกษตรอินทรีย์ กล่าวต่อว่า แปลงผลผลิตเสาวรสพันธุ์เชียงม่วน 9 ที่ปลูกไว้ในพื้นที่สวนที่อยู่ในบริเวณบ้านของตนเอง ประมาณ 1 งานเศษ โดยตนเองได้ลาออกจากงานประจำเพื่อมาดูแล บิดา มารดา ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง และเมื่อมาอยู่บ้านไม่มีงานรองรับ จึงสานต่อการเกษตรจากบิดา มารดาเริ่มมีความสนใจที่จะปลูกเสาวรส จากนั้นเริ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลและได้ไปดูงานที่ประเทศออสเตรเลีย จึงนำความรู้ความสามารถ มาทำการผสมสายพันธุ์เสาวรส และได้พันธุ์เสาวรสที่หวาน ลูกใหญ่ และได้ตัดต่อพันธุกรรมเอง นได้สายพันธุ์เชียงม่วน 9 ที่ได้จากการผสมเกสรระหว่าง เวสแพนโดล่า กับ หวานออสเตรเลีย โดย เสาวรสหวาน เป็นสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย ถูกนำเข้ามาขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอด และทำการคัดสายพันธุ์อยู่นานหลายปี
นายอัฐสิทธิ กล่าวอีกว่า จากการที่คัดสายพันธุ์เสาวรสปลูกหลายครั้งจนทำให้เนื้อในผลสุกมีรสหวานอย่างถาวร จึงขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอด โดยใช้ชื่อว่า “เสาวรสหวานเชียงม่วน 9” ดังกล่าว สำหรับระยะเวลาในการปลูก ใช้เวลา ในการปลูก ใช้เวลา 6 เดือนถึงจะเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งผลเสาวรสสามารถที่จะเก็บผลผลิตได้ตลอด โดยราคาจะขายกันที่กิโลกรัมละ 90 บาท ซึ่งเสาวรสนี้จะมีน้ำหนักดีปลอดสาร สามารถเด็ดแล้วทานได้เลยทันที เสาวรสหวานเชียงม่วน 9 จะให้ความหวานอยู่ที่ 18-19 bit เฉลี่ยแล้วจะมีน้ำหนักดี ประมาณ 5-6 ลูก ต่อ 1 กิโลกรัม
เจ้าของสวนเสาวรส กล่าวด้วยว่า เสาวรสผสมสายพันธุ์ต่างๆ เมื่อนำมาปลูกบ้านเรา จะไม่ทนเรื่องไวรัสจึงทำการบีทให้ทนไวรัส และให้ได้รสชาติหวาน น้ำหนักดี ราคาท้องตลาด กิโลกรัมละ 90 บาท ปีหนึ่งผลิตได้ประมาณ 10 ตัน และจำหน่ายทางออนไลน์ส่งห้างฟู้ดแลนด์ เอกลักษณ์ของเสาวรสที่มีคุณภาพคือ กลิ่นแรง ลูกใหญ่ ผลสวย หวานข้อสำคัญของเสาวรสคือต้องทนไวรัส ซึ่งในแต่ละเดือนสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดี.
ที่มา : ไทยรัฐ : อ่านเพิ่มเติม : https://www.thairath.co.th/content/1348673