ชาวสวนจ๊าก! มะพร้าวราคาดิ่งเหวเหลือลูกละ 4 บาท หลังนำเข้า-ลักลอบพุ่ง จี้พาณิชย์-รัฐเร่งแก้ปัญหา

ชาวสวนจ๊าก! มะพร้าวราคาดิ่งเหวเหลือลูกละ 4 บาท หลังนำเข้า-ลักลอบพุ่ง จี้พาณิชย์-รัฐเร่งแก้ปัญหา

  •  
  •  
  •  
  •  
แฟ้มภาพ

นายสมเกียรติ เหล่านาค นายกสมาคมชาวสวนมะพร้าว จังหวัดชุมพร กล่าวว่า ราคามะพร้าวขณะนี้ตกต่ำอย่างมาก หากเทียบกับเดือนเม.ย. ที่อยู่ที่ลูกละ 12-15 บาท แต่ขณะนี้อยู่ที่ลูกละ 4 บาท แต่หากหักค่าลิงกังขึ้น ค่าขนส่งจะอยู่ที่ลูกละ 2 บาท ไม่คุ้มกับต้นทุน พร้อมระบุด้วยว่าปีที่แล้วราคามะพร้าวขึ้นสูงสุดอยู่ที่ลูกละ 25-26 บาท สาเหตุที่ทำให้มะพร้าวราคาตก มาจากการเปิดให้นำเข้าเสรี ทำให้มะพร้าวจากต่างประเทศไหลเข้ามาในไทย ทั้งมะพร้าวจากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เพราะราคาถูกกว่าไทยและส่วนใหญ่โรงงานอุตสาหกรรมเป็นผู้นำเข้า

นอกจากนี้ ยังมีมะพร้าวลักลอบนำเข้า จากเมียนมาเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดน ทั้งด่านสิงขร กระบุรี และชายแดนจ.กาญจนบุรี จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการนำเข้าหรือหยุดนำเข้า เพราะผลผลิตในประเทศมีเพียงพอ และกวดขันการลักลอบนำเข้า เพราะส่งผลต่อราคามะพร้าวในประเทศโดยก่อนหน้านี้ สมาคมฯ ยื่นหนังสือถึงรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้นำหนังสือเรียกร้องของสมาคมชาวสวนมะพร้าวจังหวัดชุมพรส่งให้รมว.พาณิชย์และรัฐบาลพิจารณาแก้ปัญหาแต่ยังไม่มีความคืบหน้า

นายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายในระบุว่า ยังไม่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมชาวสวนมะพร้าว แต่ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลราคาสินค้าเกษตรซึ่งจากการลงพื้นที่ติดตามราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะมะพร้าวเพื่อการบริโภค ราคายังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอยู่ที่ลูกละ 18-20 บาท

ส่วนที่มีปัญหาเชื่อว่าน่าจะเป็นมะพร้าวที่นำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น มะพร้าวแปรรูป ซึ่งผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอจึงมีการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซึ่งไทยไม่ได้มีการห้ามนำเข้ามะพร้าว

โดยรมว.พาณิชย์ กำชับให้ดูแลราคามะพร้าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีการบริหารจัดการให้มีความสมดุลทั้งเรื่องอุปสงค์และอุปทานและดูแลการนำเข้าให้เหมาะสมทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า ปี 2560 มีการนำเข้ากากเนื้อมะพร้าว 24006 กิโลกรัม มูลค่า 704,399 บาท และมีการส่งออก 1,989,382 กิโลกรัม มูลค่า 11,981,919 บาท

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ : อ่านเพิ่มเติม :https://www.prachachat.net/economy/news-180684