สุดยอด”มะม่วงแฟนซี”เนรมิตสีได้ตามใจลูกค้า ส่งออกโกยปี 360 ล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  

สุดยอด “มะม่วงแฟนซี” เจ้าของสามารถเนรมิตสีได้ตามตลาดต้องการ เผยปลูกแล้ว  7สายพันธุ์ในคารงการแปลงใหญ่ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ป้อนจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เขมร และเวียดนาม สร้างรายได้แล้วปีละกว่า 360 ล้าน ตั้งเป้าปีหน้าดันซื้อ-ขายผ่านระบบ ไทยเทรด ดอท คอมเพิ่มช่องทางตลาดให้เกษตรกรกว้างขวางขึ้น  กรมวิชาการเกษตรสบช่องหนุนเกษตรกรยึดตลาดนำการผลิต

          นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากปัญหาเสถียรภาพราคาของ“ลำไย”ที่ผันผวนทุกปีประกอบกับเมื่อปี 59 เกษตรกรประสบภาวะแห้งแล้ง กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่หันมาปลูกมะม่วงหลากหลากหลายสายพันธุ์หรือ “มะม่วงแฟนซี” กว่า 7 สายพันธุ์แทน อาทิ จินหงษ์ R2E2 แดงจักรพรรดิ์ ช้างแดง มันศรีวิชัย มันสามรสและทองดำ ภายใต้ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่เหมือนใคร ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมชมชอบของชาวจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เขมร และเวียดนามเป็นอย่างมาก

[adrotate banner=”3″]

         สำหรับแนวทางการในการบริหารจัดการมะม่วงแปลงใหญ่ในพื้นที่อำเภอดอยหล่อนั้น กรมส่งเสริมฯได้มอบหมายให้เกษตรอำเภอถ่ายทอดความรู้การผลิตมะม่วงคุณภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพเพื่อการค้า และการส่งออกเพื่อกระตุ้นส่งเสริมการผลิตมะม่วงคุณภาพและเป็นการเชื่อมโยงตลาด โดยการบริหารจัดการกลุ่มเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน โดยมุ่งผลิตมะม่วงและคัดเลือกสายพันธุ์ตามที่ตลาดต้องการ มีการนำเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่การบังคับให้มะม่วงติดผลในช่วงที่ราคาดี หรือผลิตมะม่วงล่าฤดูคุณภาพและใช้เทคนิคกาปลูกมะม่วงระยะชิดคุณภาพเพื่อทำให้การดูแลและบริหารจัดการง่ายขึ้น ให้ผลผลิตมากขึ้นเกือบเท่าตัว ทำให้ขายมะม่วงได้ในราคามะม่วงคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ส่งผลให้ปัจจุบันมะม่วงแปลงใหญ่ดอยหล่อเป็นต้นแบบในการผลิตที่ประสบความสำเร็จเป็นแบบอย่างให้เกษตรรายอื่นๆเข้ามาเรียนรู้

          “ปัจจุบันดอยหล่อมีพื้นที่ปลูกมะม่วงรวมทั้งหมด 4,000 ไร่ ให้ผลผลิตแล้วจำนวน 2,800 ไร่ หรือ70 % ของพื้นที่ทั้งหมด ปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 2.5ตัน – 3 ตัน/ไร่ ราคาโดยเฉลี่ย ห่อถุงคาร์บอนกก.ละ 25 – 35 บาท ถ้าเป็นช่วงต้นฤดูกาลก็จะขายได้ราคาถึง กก.ละ 65บาท โดยมีตลาดส่งออกเป็นหลัก โดยปี 60 สามารถสร้างมูลค่าได้กว่า 360 ล้านบาท และในปีหน้ากรมฯมีแผนที่จะผลักดันผลผลิตมะม่วงดอยหล่อผ่านระบบออนไลน์โดยเริ่มต้นที่เว็บไซต์ ไทยเทรด ดอท คอมของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขยายตลาดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศให้เกษตรกว้างขวาง” นายสมชาย กล่าว

          ด้านนายจรัส ศรีสุภา ประธานแปลงใหญ่มะม่วงอำเภอดอยหล่อ กล่าวว่า ขณะนี้มะม่วงแปลงใหญ่ดอยหล่อกำลังเป็นที่นิยมของหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนนั้นนิยมชื่นชอบสายพันธุ์ที่สีสันสีทอง สวยงาม ลูกโตๆ โดยนำเทคนิคในการห่อมาช่วยเพื่อบังคับให้มะม่วงออกสีตามที่ผู้บริโภคหรือลูกค้าต้องการ อาทิ สีเขียว เหลือง เหลืองทอง ม่วง แดง ชมพู และมีแผนที่จะพัฒนาสายพันธุ์จาก 7 ชนิดขยายเป็นสิบๆชนิดในอนาคตอีกด้วย อาทิ มะม่วงหงส์ไข่เท่อร์ (RED HEART GIANT MANGO )ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกเพื่อกินผลสุกเพียงอย่างเดียว มีถิ่นกำเนิดจากประเทศไต้หวัน พันธุ์มังกรแดง เป็นต้น

       “ตอนนี้เราสามารถผลิตได้หมดทั้ง กำหนดสีสันต่างๆ สีนวล สีเหลือจัด ชมพู แดง ม่วง ขนาดไซร์ ซึ่งบางรุ่นสามารถผลิตได้ไซร์ลูกละ 1-2 กก. เราเน้นผลิตตามรสนิยมของประเทศที่ซื้อหรือที่ตลาดต้องการ หรือเอาใจตลาดเป็นหลัก และใช้เทคโนโลยีการปลูกระยะชิด มีการปรับแต่งและมีการดูแลให้ต้นไม่สูงเกินไปหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเปิดผ่ากะโหลก เพื่อเปิดช่องกลางให้แสงลง มีการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่สามารถบังคับให้ผลผลิตได้สีตามที่ตลาดต้องการ มะม่วงดอยหล่อจึงมีสีสันหลากสี สวยงาม” นายจรัส กล่าว