นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ได้วางแผนการผลิตข้าวทั้งประเทศอย่างเป็นระบบตามแผนข้าวครบวงจร ซึ่งบูรณาการทำงานกัน 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย โดย 3 ปีที่ผ่านมาได้ส่งเสริมการทำนาในระบบแปลงใหญ่ ซึ่งได้ผลดีในการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
นายอนันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันชาวนาตื่นตัวที่จะปรับการปลูกข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดจากการเข้าไปส่งเสริมของกรมการข้าว ซึ่งมีนโยบายจำแนกตลาดข้าวให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น จากเดิมแบ่งเป็นตลาดข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุม ข้าวขาว ข้าวเหนียว และข้าวสี ขณะนี้ได้จำแนกข้าวขาวให้แบ่งย่อยเป็นข้าวพื้นแข็งและข้าวพื้นนุ่ม ซึ่งสมาคมผู้ส่งออกข้าวระบุว่าข้าวพื้นนุ่มกำลังเป็นที่ต้องการของประเทศจีน โดยเวียดนามเริ่มส่งเข้าไปขายแล้ว แต่ชาวนาส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการปลูกข้าวพื้นแข็ง ได้แก่ สายพันธุ์ กข 41 57 61 ชัยนาท 1 ส่วนข้าวพื้นนุ่ม ได้แก่ สายพันธุ์กข 21 43 59 พิษณุโลก 80 ยังปลูกกันไม่มาก พื้นที่ปลูกข้าวทั้ง 2 กลุ่มอยู่ในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง
ทั้งนี้ กรมการข้าวจึงวางแผนการผลิตข้าวปี 2561/2562 เพิ่มการส่งเสริมการผลิตข้าวพื้นนุ่มให้มากขึ้น เพื่อส่งตลาดในจีน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดียังคงนิยมข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณภาพระดับดีมากและราคาสูง ส่วนผู้บริโภคทั่วไปต้องการข้าวพื้นนุ่ม ซึ่งราคาลดหลั่นลงมา
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ได้เข้าไปสนับสนุนการจับคู่ค้าระหว่างกลุ่มนาแปลงใหญ่ที่ผลิตข้าวพื้นนุ่มกับผู้ส่งออก เพื่อทดลองทำตลาดจีนหลายกลุ่มแล้วและปีการผลิต 2562 จะส่งเสริมการผลิตข้าวพื้นนุ่มสายพันธุ์ต่าง ๆ ป้อนตลาดจีนและทำตลาดในประเทศอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
ที่มา : สำนักข่าวไทย : อ่านเพิ่มเติม : http://www.tnamcot.com/view/5b15f8e4e3f8e4f60285c3c0