พล.ต.สมชาสย ครรภาฉาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม สั่งการให้ เจ้าหน้าที่กำลังทหารชุดเฉพาะกิจ ลงพื้นที่นำรถบรรทุก เข้าไปดูแลช่วยเหลือ ในการขนส่ง สับปะรด จากสวนของเกษตรกรในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นำส่งตลาด หลังเกษตรกรประสบปัญหาความเดือดร้อนจากราคาสับปะรดตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี มีราคาหน้าสวน ประมาณกิโลกรัมละ 2-3 บาท จากราคาปกติกิโลกรัมละ 8-10 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ประสบปัญหาขาดทุน เพราะต้องแบกภาระค่าขนส่งน้ำมันแพง เพราะต้นทุนอยู่ที่กิโลกรัมละ 3 บาท ส่วนสาเหตุหลักมาจากไม่มีโรงงานมารับซื้อ รวมถึงไม่มีโรงงานแปรรูปในพื้นที่ ทำให้ผลผลิตล้นตลาด เพราะมีผลผลิตออกสู่ตลาดวันละประมาณ 60-70 ตัน
โดยพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน ถือเป็นพื้นที่แหล่งผลิตปลูกสับปะรดหวานขึ้นชื่อ ที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นครพนม และยังเป็นพืชเกษตร และยังเป็นผลผลิตทางการเกษตร บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีรสชาติหวานฉ่ำ กลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ตาตื้น ที่สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรปีละหลาย 10 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน มีพื้นที่ปลูกมากกว่า 8,000 ไร่ แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ได้เกิดวิกฤตจากปัญหาผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ มีพ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อหน้าสวน ประมาณกิโลกรัมละ 2-3 บาท
ล่าสุดทางด้าน นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม ได้ร่วมกับ หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงทหาร เข้าไปดูแลช่วยเหลือ รับซื้อสับปะรด นำไปขายกระจายสู่ตลาดในพื้นที่ และเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหันมาช่วยกันซื้อสับปะรด แก้ปัญหาล้นตลาด พร้อมเปิดจุดจำหน่ายสับปะรด ตามสถานที่ต่างๆ ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม เบื้องต้นรวม 7 แห่ง ให้เกษตรกรนำสับปะรดมาวางขาย และหาทางติดต่อพ่อค้ามารับซื้อ เป็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ซึ่งมีราคาขายกิโลกรัมละประมาณ 8-10 บาท ส่วนสับปะรดปลอก พร้อมรับประมาณ จะตกลูกละประมาณ 20-30 บาท
ด้านนายเกษม รักสุจริต เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเก็บผลผลิตสวนสับปะรด โดยพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถือว่ามีพื้นที่มากสุดในการปลูกสับปะรด มีเนื้อที่ปลูกรวมมากกว่า 80,000 ไร่ มีผลผลิตช่วงนี้เก็บวันละกว่า 50 ตัน ยิ่งในช่วงเดือนมิถุนายน คาดว่าจะถึงกว่า 70 ตัน ส่วนต้นทุนจะตกกิโลกรัมละ ประมาณ 3 บาท ปัญหาสำคัญคือช่วงนี้รับซื้อหน้าสวนแค่กิโลกรัมละ 2-3 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร เป็นอย่างมาก ปัจจัยสำคัญที่มาราคาตกต่ำคือ เรื่องปริมาณผลผลิตมาก ไม่มีตลาดรองรับ ไม่มีโรงงานแปรรูป
ทั้งนี้ทางจังหวัดนครพนม เกษตรจังหวัด ได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน เร่งหารือหาทางช่วยเหลือ ในการเพิ่มช่องทางการตลาดในการระบาย โดยมีการเปิดจุดขายสับปะรดตามสถานที่สำคัญต่างๆ เปิดโอกาสให้เกษตรกรนำไปวางขาย เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด รวมถึงประสานไปยัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชน มาช่วยซื้อกระจายผลผลิต เพื่อให้มีจุดขายตลาดสับปะรด ให้มากที่สุด รวมถึงเร่งประชาสัมพันธ์การจำหน่าย ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวมาซื้อรับประทาน สับปะรดขึ้นชื่อ สินค้าเกษตร จีไอ คุณภาพของ จ.นครพนม รวมถึงการวางแนวทางในการแปรรูปแก้ไขปัญหาระยะยาว
นอกจากนี้จะได้หารือแนะนำเกษตรกรให้วางแผนแก้ไขในระยะยาว ด้วยการวางแผนในการกำหนดระยะเวลาในการเก็บผลผลิตไม่ให้ผลผลิตออกมาพร้อมกัน ซึ่งจะต้องมีการวางแผน ให้มีผลผลิตออกนอกฤดูกาล จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาระยะยาว ที่สำคัญจะต้องมีการผลผลิตสับปะรดที่ได้คุณภาพทุกด้าน จะต้องคงไว้ด้วยรสชาติอร่อย หวาน เพื่อส่งเสริมการตลาดการันตีคุณภาพ ให้ตลาดต้องการมากที่สุด
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ : อ่านต่อ : https://www.prachachat.net/economy/news-165318