กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะปรับพฤติกรรมเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ด้วยผักพื้นบ้าน อาหารเป็นยา
อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะปรับพฤติกรรมเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงด้วยพืชสมุนไพร ผักพื้นบ้าน อาหารเป็นยา ป้องกันและลดภาวะความดันโลหิตสูงเนื่องในวัน “ความดันโลหิตสูงโลก”
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับวันความดันโลหิตสูงโลกว่า ตามที่สมาพันธ์ความดันโลหิตสูงโลก (World Hypertension League) และสมาคมโรคความดันโลหิตสูงนานาชาติ (International Society of Hypertension) ได้กำหนดให้วันที่ 17 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันความดันโลหิตสูงโลก ในระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 – 2561 (ค.ศ. 2014 – 2018) ซึ่งคำขวัญเพื่อการรณรงค์วันความดันโลหิตสูงโลกที่สมาพันธ์กำหนด คือ Know Your Number ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข และสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย ได้แปลคำขวัญดังกล่าวเพื่อใช้ในการรณรงค์ว่า “ท่านทราบระดับความดันโลหิตของท่านหรือไม่” ซึ่งโรคความดันโลหิตสูงหรือภาวะความดันโลหิตสูง เป็น 1 ใน 4 ของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable diseases : NCD’s) เป็นโรคที่พบบ่อยในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ความดันโลหิตของคนปกติเท่ากับ 90/60 มม.ปรอท -119/79 มม.ปรอท ส่วนผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงจะมีระดับของความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 มม.ปรอทขึ้นไป และพบว่าปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ได้แก่ อาหารรสเค็ม โรคอ้วน สูบบุหรี่ ติดสุรา พันธุกรรม โรคเบาหวาน ขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจะมีโอกาสเป็นโรคอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต องค์การอนามัยโลกกำหนดค่าเป้าหมายในแผนปฏิรูปสุขภาพ ให้แต่ละประเทศดำเนินการให้บรรลุ 9 ค่าเป้าหมาย ภายในปี 2568 โดยความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงต้องลดลงร้อยละ 25
เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ดังนั้น องค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาพื้นบ้าน จึงมีการนำพืชผักพื้นบ้านมาปรุงเป็นอาหาร เพื่อป้องกันและรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ตัวอย่างเช่น ใบบัวบก ใบย่านาง มะรุม กระเจี๊ยบ กระเทียม ขิง หม่อน ส่วนน้ำสมุนไพรที่ช่วยลดความดันโลหิต ได้แก่ น้ำบัวบก น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย น้ำขิง ส่วนยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติคือ ยาหญ้าหนวดแมว และยากระเจี๊ยบแดง ยาทั้ง 2 ชนิด มีสรรพคุณขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต ข้อควรระวังไม่ควรใช้ในผู้ที่มีการทำงานของหัวใจและไตบกพร่อง เนื่องจากมีแร่ธาตุโพแทสเซียมสูง ซึ่งผักพื้นบ้านและยาสมุนไพรที่กล่าวมาข้างต้น งานวิจัยรับรองสรรพคุณในการลดความดันโลหิตได้
นอกจากผักพื้นบ้าน น้ำสมุนไพร และยาสมุนไพรที่ช่วยลดความดันโลหิตแล้ว ควรที่จะออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ จำกัดการบริโภคอาหาร รสหวานจัด เค็มจัด และอาหารไขมันสูง หากิจกรรมนันทนาการผ่อนคลายความเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ เป็นต้น เพียงเท่านี้ ชีวิตคนเราก็จะห่างไกลกับโรคความดันโลหิตสูง และไม่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงในอนาคตข้างหน้า
หากต้องการทราบข้อมูลสรรพคุณของสมุนไพร สามารถดูได้จากแอพพลิเคชั่น “สมุนไพรเฟิร์ส” หรือสอบถามได้ที่ Call Center 0 2591 7007 ต่อกองวิชาการและแผนงาน
ที่มา : กรมการแพทย์แผนไทยฯ