ผวาราคายาง เข้าฤดูเปิดหน้ากรีด ด้านผลิตภัณฑ์ไม้ยาง เศษไม้ ปีกไม้ ตอไม้ ตลาดต้องการสูง

  •  
  •  
  •  
  •  

“ยาง” สมบูรณ์กว่าทุกปี ชาวสวนผวาราคาร่วง ฝากความหวังนโยบายรัฐบาล ด้านไม้ยางพาราตลาดรับไม่อั้น ป้อนโรงไฟฟ้า เตาอิฐ เตาถ่าน

เจ้าของสวนยางหมู่ 3 บ้านด่านโลด ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าปี 2561 นี้ ยางออกใบสมบูรณ์มาก ต่างจากปีก่อน ที่ใบผลิไม่สมบูรณ์เพราะถูกฝน ทำให้ดอกและใบร่วงหล่น 3-4 ครั้ง แต่ในปีนี้ฝนตกน้อย ขณะที่ใบผลิออกอยู่ตัวแล้ว

“จากใบที่สมบูรณ์ จะเข้าสู่ฤดูกาลเปิดหน้ากรีดราวเดือนพฤษภาคม จะทำให้น้ำยางมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น” เจ้าของสวนยางกล่าว

แหล่งข่าวจากนายหน้าผู้ค้าไม้ยางพารา จ.พัทลุง เปิดเผยว่าสถานการณ์ราคาไม้ยางพารา เคลื่อนไหวอยู่ 1.70-1.80 บาท/กก. ส่วนไม้ฟืนประมาณ 00.60 บาท/กก. ตอไม้ยาง 00.60 บาท/กก. ตอไม้ 00.50 บาท/กก. และขี้เลื่อยไม้ ราคา 00.50 บาท/กก. ทุกชิ้นส่วนตลาดมีความต้องการสูง

โดยเฉพาะขี้เลื่อยไม้จะมีความต้องการมากในการทำเตาเผาถ่าน ส่วนเศษไม้ ไม้ฟืน มีความต้องการในธุรกิจโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล และจะได้ราคาถึง 1.10 บาท/กก. ในขณะที่ตอไม้ยาง แต่ละต้นมีปริมาณเฉลี่ยราว 50 กก.–100 กก. ซึ่งเดิมจะถูกเผาทิ้งโดยไม่ใช้ประโยชน์ แต่ปัจจุบันสามารถขายสำหรับเป็นพลังงานเชื้อเพลิงได้

ด้านนายประยูรสิทธิ์ คณานุรักษ์ ประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง การยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคายางนิ่งทรงตัว โดยน้ำยางสดราคา 40-41-42 บาท/กก. และยางรมควัน 47-48 บาท/กก.

โดยราคาสภาพนี้เป็นมาเกือบ 2 เดือน ในขณะที่ยางมีการปิดหน้าตามฤดูกาลผลัดใบและผลิใบ แต่ยังมีทะยอยกรีดอยู่เพียงเล็กน้อย

“ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม 2561 ที่จะถึงนี้ จะเข้าสู่ฤดูกาลเปิดกรีดหน้ายาง และจะเห็นทิศทางราคายางว่าไปในทิศทางไหน โดยปีนี้ต้นยางมีความสมบูรณ์มาก ปริมาณน้ำยางและผลผลิตเพิ่มมากขึ้น จึงน่าเป็นห่วงเรื่องราคา” นายประยูรสิทธิ์กล่าว

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ