โดย…ดลมนัส กาเจ

ในงาน “เกษตรแฟร์ ปี 2568” ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.)  บางเขน กรุงเทพฯ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2568 ในโซนนวัตกรรมมีการโชว์พันธุ์ “มันไม้” หรือ”มันสำปะหลังชนิดหวาน” (Sweet cassava) ด้วยความคุ้นเคยกับสมัยเด็กๆเลยถามเจ้าหน้าที่ประจำบูธว่า มาจากไหน ได้รับคำตอบว่า “มันไม้” ที่มาจาก จ.ยะลา ทางยะลาเรียกว่า “มันไม้”

มันสำปะหลังชนิดหวาน (Sweet cassava) มีคุณค่าทางโภชนาการสูงปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง ทำเป็นขนมขบเคี้ยวทดแทนมันฝรั่งที่มีราคาสูงทำแป้งฟลาวไร้กลูเตน ทดแทนแป้งข้าวสาลี สถานีวิจัยลพบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้พัฒนาสายพันธุ์มันสำปะหลังชนิดหวาน  เพื่อเป็นทางเลือกส่งริมและสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตเพื่อใช้ภายในประทศ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ แก้ไขปัญหาการส่งออกในรูปของมันเส้นและ Native Starch ที่ลดลง

ปัจจุบันมีมันสำปะหลังชนิดหวาน พันธุ์เกษตรศาสตร์ 1 พันธุ์เกษตรศาสตร์ 2 และพันธุ์เกษตรศาสตร์ 3 เมื่อเก็บเกี่ยวที่อายุ 6-8 เดือน จะได้น้ำหนักหัวสดประมาณ 1.5-3 กก. ต่อต้น ที่อายุ 9-11 เดือน จะได้น้ำหนักหัวสด 3-5 กก. ต่อต้น มันสำปะหลังทั้งสามพันธุ์สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารสำหรับบริโภคในครัวเรือนได้ดี ตั้งแต่อายุ 6 เดือนจนถึง 13 เดือน

ที่จริงมันไม้เป็นมันสำปะหลังชนิดหนึ่งที่ภาคกลางเรียกว่า มัน 5 นาที ทาง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เรียกว่า มันไม้ เป็นมันพันธุ์พื้นบ้านที่ปลูกกันมานานแล้ว เพื่อรับประทานในครัวเรือน เนื้อสีขาวร่วน มัน หวานนิดๆ เหมาะกับการทำขนมหวานหรือจะ ต้ม นึ่ง เชื่อม หมกหรือเผาไฟ ทำข้าวต้มมัด  ข้าวหมาก แม้แต่แกงทำกับข้าวก็อร่อย แต่ทางภาคใต้จะนิยมบริโภคมากที่สุดคือช่วงหน้าฝน ต้ม จิ้มกับมะพร้าวทึนทึกใส่เกลือป่นหน่อย น้ำตาลทรายนิดๆ ร่วมวงกินกันอย่างสนุกสนาน

มันไม้ปลูกง่ายมาก เอากิ่งพันธุ์มาปักชำลง ทิ้งไว้ไม่ต้องดูแลเยอะ ในต่างจังหวัดนิยมปลูกไว้ตามปลวก รั้วบ้าน ปลายนา ตามไร่ แต่ถ้าใส่ปุ๋ย ให้น้ำบ้างก็ดี จะมีคุณภาพมากขึ้น