โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
ทีมนักวิจัยนานาชาติที่นำโดย University of Western Australia (UWA) กล่าวว่า การแก้ไขยีนและการเพาะปลูกพืช ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องแหล่งอาหารในสภาพอากาศที่เลวร้ายลง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ศาสตราจารย์ Sergey Shabala ประธานสาขาสรีรวิทยาพืช (Plant Physiology) ที่ UWA ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักวิจัยที่ได้รับการอ้างถึงอย่างสูงของ Clarivate (Clarivate’s Highly Cited Researchers) ประจำปี พ.ศ. 2567 และเป็นผู้เขียนหลักของการศึกษาวิจัยนี้ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสาร Frontiers in Science
ศาสตราจารย์ Shabala กล่าวว่า “อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ความแห้งแล้ง น้ำท่วม และความเค็มที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำลังลดปริมาณอาหารที่บริโภคได้ซึ่งผลิตจากพืชหลักของเรา” และ “การเพิ่มการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับปรุงพืชให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศใหม่”
การศึกษานี้ได้ตรวจสอบการเพาะเลี้ยงพืชป่า ซึ่งมีความทนทานต่อความเครียดจากสิ่งแวดล้อมแต่ให้ผลผลิตต่ำกว่า และส่งผ่านยีนที่มีความยืดหยุ่นในพืชสมัยใหม่ที่ให้ผลผลิตสูงเพื่อสร้างแหล่งอาหารที่ยั่งยืน การส่งผ่านยีนจะทำได้ง่ายกว่าเมื่อมีชนิดพันธุ์ที่มีความใกล้ชิดที่มียีนที่ต้องการ หรือที่มียีนคงอยู่ในดีเอ็นเอของพืชแต่ไม่ถูกกระตุ้นให้แสดงออก
อย่างไรก็ตาม ยีนจำนวนมากมีส่วนในการความทนทานต่อความเครียดจากสิ่งแวดล้อม และการส่งผ่านคุณลักษณะใหม่ ๆ เพิ่มเติมเป็นเรื่องยาก การเพาะปลูกพืชป่าจะประสบความสำเร็จที่ค่อนข้างง่าย ซึ่งจำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะง่ายเพียงพอที่จะช่วยรับประกันเป็นแหล่งอาหารหรือไม่
ศาสตราจารย์ Shabala กล่าวอีกว่า “พืชสมัยใหม่ที่เพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและง่ายต่อการเก็บเกี่ยว ยังขาดทรัพยากรพันธุกรรมเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ” และ “การผลิตทางการเกษตรที่ยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหารทั่วโลกนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการพัฒนาพืชที่มีความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศ”.”
ผลการศึกษาพบว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่ากลยุทธ์ใดจะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบสำคัญที่เหมือนกันที่มีความจำเป็นต่อความสำเร็จทั้ง 2 แนวคิด ได้แก่ นวัตกรรมการแก้ไขยีนและเทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ที่แม่นยำ (precision breeding technologies) อื่น ๆ ซึ่งขับเคลื่อนลักษณะทางพันธุกรรมที่แม่นยำ และการยอมรับของสาธารณชนต่อพันธุ์พืชใหม่
ศาสตราจารย์ Shabala กล่าวต่ออีกว่า “ปัญหาของการรับประทานอาหารที่ยั่งยืนนั้นมีแง่มุมทั้งทางวิทยาศาสตร์ สังคม และการเมือง” และ “การยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในวงกว้างและความเต็มใจที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมบางอย่างเป็นสิ่งจำเป็น”
“ตัวอย่างที่ดีก็คือ ข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักสำหรับประชากรจำนวนมาก แต่หลายพื้นที่ของโลกอาจไม่เหมาะสมกับการผลิต อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้พันธุ์ข้าวชนิดอื่นที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า แต่ประชาชนพร้อมจะยอมรับหรือไม่”
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.uwa.edu.au/news/article/2024/december/call-for-two-fold-approach-to-create-sustainable-food-supplies