โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
สตรอเบอร์รี่ซึ่งขึ้นชื่อในด้านรสชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เนื้อที่อ่อนนุ่มทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นและเสียไป การวิจัยระบุว่าเอนไซม์เพคติเนส (pectinase enzymes) มีส่วนในกระบวนการทำให้เนื้ออ่อนนุ่ม
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยหนานจิง Nanjing University ในสาธารณะรัฐประชาชนจีน ได้ปลูกต้นสตรอเบอร์รี่ที่แก้ไขยีน FaPG1 ให้หยุดทำงาน ด้วย CRISPR-Cas9 ลำดับจีโนมของ FaPG1 ได้ถูกอ้างอิงโดยโยงกับจีโนม Fragaria × ananassa ซึ่งมีคำอธิบายประกอบ 2 รายการที่ตั้งอยู่บนโครโมโซม 6A
รายการหนึ่งในจีโนม Camarosa (FxaC_21g15770) และอีกรายการหนึ่งในจีโนม Royal Royce (Fxa6Ag103973) ลำดับ FxaC_21g15770 ถูกใช้เพื่อเลือก sgRNA สำหรับการแก้ไข sgRNA ที่เลือกถูกเพิ่มจำนวนและถ่ายโอนไปยังเวกเตอร์ pDe-CAS9
การเปลี่ยนแปลงดำเนินการโดยใช้ Agrobacterium tumefaciens กับต้นสตรอเบอร์รี่ พันธุ์ “แชนด์เลอร์ (Chandler)” ซึ่งให้ผลผลิตมากกว่าอีก 15 สายพันธุ์ที่ต้านทาน มีการประเมิน 10 สายพันธุ์ที่ต้านทาน ซึ่งทุกสายพันธุ์แสดงให้เห็นว่าการแก้ไขยีน FaPG1 ประสบความสำเร็จ
นักวิจัยได้ประเมินลักษณะเฉพาะหลังการเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี่ และพบว่าผลไม้ที่ผ่านการแก้ไขยีนแล้วมีอัตราการอ่อนตัวลดลง และเพิ่มความต้านทานต่อโรคเน่าจากเชื้อราเมื่อเทียบกับสตรอเบอร์รี่ป่า ผลไม้ที่ผ่านการแก้ไขยีนยังแสดงให้เห็นความต้านทานที่เพิ่มขึ้นต่อ Botrytis cinerea ซึ่งเป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคเน่าในพืชหลายชนิด รวมถึงสตรอเบอร์รี่และองุ่นทำไวน์
ครับ เพียงเพิ่มความแน่นให้กับผลสตรอเบอร์รี่ด้วยการแก้ไขยีน ทำให้ความต้านทานต่อโรคที่เกิดจากเชื้อราเพิ่มขึ้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://academic.oup.com/hr/article/10/3/uhad011/7022301?login=false