โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
รายงานฉบับใหม่ที่จัดทำโดย Rabobank ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับเมล็ดพันธุ์พืชที่แก้ไขยีนจะอยู่ในระดับสูงในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า แม้ว่าระยะเวลาที่แน่นอนในการยอมรับเมล็ดพันธุ์พืชที่แก้ไขยีน (gene editing) นั้นยากที่จะประเมิน แต่นักวิจัยคาดว่าอัตราการยอมรับจะเกินร้อยละ 50 ภายใน 5 – 10 ปี
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา พบว่ามีการยื่นคำขอจำนวน 169 รายการสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มาจากการแก้ไขยีนในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2563 ซึ่งคำขอเหล่านี้ครอบคลุมถึงพืชที่ใช้ในการบริโภคของมนุษย์ อาหารสัตว์ การใช้งานในอุตสาหกรรม และรวมถึงจุลินทรีย์บางชนิดสำหรับอุตสาหกรรม
Chia-Kai Kang นักวิเคราะห์ปัจจัยการผลิตในพื้นที่เพาะปลูกของ Rabobank กล่าวว่าเทคโนโลยีการแก้ไขยีนมีศักยภาพในการแก้ปัญหาตลอดห่วงโซ่อุปทานอาหารสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด
“เทคโนโลยีการแก้ไขยีนสามารถเพิ่มผลผลิตพืชได้โดยไม่ต้องขยายพื้นที่เพาะปลูก ลดปริมาณเศษอาหาร ลดปริมาณสารอันตรายในอาหาร และลดปริมาณการใช้ยาฆ่าแมลง”
ตามข้อมูลของ Kang มีอย่างน้อย 5 ปัจจัยที่จะตัดสินว่า พืชแก้ไขยีนสามารถบรรลุอัตราการยอมรับที่สูงได้หรือไม่ ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น คุณภาพ ผลผลิต และความสม่ำเสมอในการแสดงออก และความเสี่ยงระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปฏิกิริยาจากภูมิแพ้และความเป็นพิษ
ครับ ไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะเป็นไปเหมือนที่คาดหวังนี้หรือไม่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.farminguk.com/news/high-adoption-of-gene-edited-crop-seeds-likely-in-next-five-to-ten-years-_62555.html