โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่ชื่อว่า Feed the Future Striga Smart Sorghum for Africa (SSSfA) ได้เปิดตัวในเคนยาและเอธิโอเปีย SSSfA เป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีการแก้ไขจีโนม CRISPR เพื่อพัฒนาข้าวฟ่างพันธุ์ใหม่ที่ต้านทานต่อ Striga ซึ่งเป็นวัชพืชกาฝากที่มีส่วนทำให้ธัญพืชหลักของแอฟริกาสูญเสียผลผลิตมากถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงเป็นอันตรายต่อการดำรงชีวิตของเกษตรกรรายย่อยหลายล้านรายในทวีปนี้

โครงการนี้มีระยะเวลา 3 ปีที่มีหลายสถาบันและหลายภาคส่วนเข้าร่วมโครงการ ได้รับการสนับสนุนจากโครงการริเริ่มด้านความอดอยากและความมั่นคงด้านอาหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีชื่อว่า Feed the Future และนำโดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) USAID มอบเงินเกือบ 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนพันธมิตรหลัก ได้แก่ International Service for the Acquisition of Agri-biotech Applications (ISAAA) AfriCenter, Kenyatta University (เคนยา) และ Addis Ababa University (เอธิโอเปีย)

ในเคนยา Dr. Gatama Gichini ผู้แทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้านการศึกษาของเคนยา เป็นประธานในการเปิดตัวโครงการ ที่เข้าร่วมโครงการโดย ศาสตราจารย์ Paul Wainaina จาก Kenyatta University ท่ามกลางบุคคลสำคัญอื่น ๆ ในสุนทรพจน์ที่อ่านโดย Dr. Gichini เลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้านการศึกษาได้กล่าวแสดงความยินดีกับ Kenyatta University, ISAAA AfriCenter และพันธมิตร สำหรับความกระตือรือร้นและการทำงานหนักในการหาเงินทุนสำหรับโครงการนี้ และมีความมั่นใจว่าโครงการนี้จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายด้านการเกษตรและเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการให้ความสำคัญกับข้าวฟ่างที่เป็นทางเลือกหนึ่งแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

“กระทรวงให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการนี้ภายใต้โครงการเกษตรของรัฐบาลเพื่อความร่วมมือและความสำเร็จที่เหมาะสม” ศาสตราจารย์ Wainaina ยังเน้นย้ำว่าความสำคัญของโครงการนี้ คือ การเสริมสร้างศักยภาพของนักวิทยาศาสตร์ในการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสื่อสารด้านวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง “สิ่งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชนและสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ในทุกระดับ” เขา กล่าว

ผู้นำในทุกภาคส่วนยกย่องโครงการนี้ว่า เป็นผู้เปลี่ยนเกมในภารกิจของแอฟริกาในการต่อสู้กับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อการเกษตร ดร. Margaret Karembu ผู้ติดต่อหลักของ SSSfA กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณสำหรับรางวัลที่โดดเด่นนี้ นี่เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของ USAID ในการจัดการกับความท้าทายด้านการเกษตรของทวีปของเรา และส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยในแอฟริกาในการปรับปรุงผลผลิต”

ศาสตราจารย์ Steven Runo ซึ่งเป็นผู้ติดต่อโครงการอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า โครงการใหม่นี้เป็นประโยชน์ต่อการเกษตรในภูมิภาคนี้ ” และ การแพร่ระบาดของ Striga เป็นภัยคุกคามที่แท้จริงในแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา จึงต้องขอขอบคุณ USAID อย่างที่สุด สำหรับการสนับสนุนครั้งใหญ่ในการแก้ปัญหาที่ท้าทายนี้ และมั่นใจว่าภูมิภาคนี้จะมีอาหารเพียงพอ”

ข้าวฟ่าง Striga-Smart (ข้าวฟ่างที่ทนทานต่อ Striga) ที่พัฒนาแล้ว จะได้รับการขึ้นทะเบียนเพื่อการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ ความสำเร็จของพืชดัดแปลงจีโนมเชิงพาณิชย์คาดว่าจะมีผลกระทบไปทั่วแอฟริกา เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ใช้ CRISPR ในการปรับปรุงพันธุ์ เพื่อให้ได้พันธุ์ที่ดีกว่า ยืดหยุ่น และปรับตัวได้กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ครับ ติดตามความก้าวหน้าต่อไป ที่น่าสนใจ คือ การนำเทคโนโลยีการแก้ไขยีนมาใช้ในการพัฒนาพันธุ์ข้าวฟ่างให้ทนทานต่อวัชพืช Striga

ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Dr. Margaret Karembu อีเมล์ mkarembu@isaaa.org