โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยวสุภาษิต

ผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นอาสาสมัครได้เยี่ยมชมแปลงทดสอบภาคสนามของมันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรมในสวีเดน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่า การเยี่ยมชมแปลงทดสอบภาคสนาม สามารถเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อพืชดัดแปลงพันธุกรรมได้หรือไม่ ซึ่งการศึกษาให้ผลลัพธ์ที่เป็นบวก

แปลงทดสอบอยู่ในพื้นที่ของเมืองบอร์เกบี (Borgeby)ประเทศสวีเดน ซึ่งปลูกมันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรมที่มียีนต้านทานโรคใบไหม้ จำนวน 3 ยีน หลังจากการโฆษณาให้มาเยี่ยมชมแปลงทดสอบมันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรมในช่องทางโซเชียลมีเดีย มีอาสาสมัครชาวสวีเดน จำนวน 28 คนลงทะเบียนเพื่อเยี่ยมชม

การเยี่ยมชมไม่ได้มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยียีนแก่ผู้เข้าเยียมชมก่อนการเดินทาง และอาสาสมัครที่เข้าร่วมได้รับแจ้งว่า จะได้พบกับนักวิจัยและเรียนรู้เพิ่มเติมว่ามันฝรั่งจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีรสชาติที่ดีขึ้นได้อย่างไร แต่ละคนจะได้รับแบบสำรวจเพื่อสอบถาม จำนวน 2 ฉบับที่มีคำถามเดียวกัน ฉบับหนึ่งเป็นแบบสอบถามพื้นฐานก่อนการเยี่ยมชม และอีกฉบับเป็นแบบสอบถามหลังการเยี่ยมชม

ผลการศึกษาพบว่า ก่อนการเยี่ยมชม ร้อยละ 65 ของผู้เข้าเยี่ยมชมมองว่า พืชดัดแปลงพันธุกรรมมีความเสี่ยง แต่การประเมินหลังการเยี่ยมชมพบว่า ทัศนคติของผู้เข้าเยี่ยมชมเปลี่ยนไปในทางบวก

จากการศึกษาพบอีกว่า ประสบการณ์ส่วนตัวและการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ รวมกับการอภิปรายเชิงรุกอาจเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคให้กลายเป็นสิ่งที่ชอบและลดความเห็นที่ผิด ๆ ที่เกี่ยวข้องได้

นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่เป็นไปได้ของการเยี่ยมชมแปลงทดสอบ ที่สามารถขยายไปสู่พืชดัดแปลงพันธุกรรมประเภทอื่นๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ที่เกี่ยวข้องจากประสบการณ์ภาคสนามของพืชดัดแปลงพันธุกรรมภายใต้กฎหมายยุโรปปัจจุบัน

     ครับ นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้ต่อต้านในประเทศไทยไม่ต้องการให้มีการทดลอบพืชดัดแปลงพันธุกรรมภาคสนาม

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tandfonline.com/doi/full/10.1080/21645698.2022.2133396