โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

Evan Fraser ผู้อำนวยการ Arrell Food Institute แห่ง University of Guelph  ประเทศแคนาดา กล่าวว่า “เราไม่สามารถเลี้ยงคน 10 พันล้านคนอย่างยั่งยืนโดยใช้ระบบการผลิตปัจจุบัน เราไม่สามารถจริง ๆ เราต้องใช้ที่ดินของเราที่มีอยู่อย่างจำกัด และเราจำเป็นต้องเพิ่มผลผลิตของเรา”

นั่นคือสิ่งที่การศึกษาและทดลองทางวิทยาศาสตร์จะต้องมีบทบาทมากขึ้น

Martin Entz เกษตรกร นักวิจัย และศาสตราจารย์ด้านการปลูกพืชและเกษตรกรรมระบบธรรมชาติที่ University of Manitoba.กล่าวว่า “เรากำลังศึกษากระบวนการชีววิทยาในระบบนิเวศน์ (biological ecological processes)ของธรรมชาติ”

เป็นการกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Quirks & Quarks (รายการข่าว วิทยาศาสตร์ ของแคนาดา) และ “ในธรรมชาติ สิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่เป็นความหลากหลาย และในธรรมชาตินี้เอง ที่สารอาหารถูกนำกลับมาใช้ใหม่ คาร์บอนถูกนำกลับมาใช้ใหม่ และโดยธรรมชาติแล้ว ไม้ยืนต้นเป็นพืชพันธุ์ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับพืชล้มลุก”

Entz  กล่าวอีกว่า การเกษตร อย่างน้อยที่สุดในโลกตะวันตกส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพาระบบบัญชาการและควบคุม (command and control systems คือ ระบบที่ใช้ในการวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ขององค์กรในการสั่งการและควบคุมสำหรับปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบ และประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร) ที่พยายามครอบงำธรรมชาติเพื่อเพิ่มผลผลิตสูงสุด

“เราได้เปลี่ยนจากยุคจักรกลมาสู่ยุคเคมี และตอนนี้ เรากำลังเข้าสู่ยุคชีวภาพของการเกษตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเรากำลังพิจารณาข้อจำกัดของสารเคมีโดยเฉพาะ และเรากำลังคิดว่า เราจะทำสิ่งนี้ในลักษณะเดียวกับที่ธรรมชาติทำได้อย่างไร เราจะเลียนแบบธรรมชาติเพื่อสร้างวิธีแก้ปัญหาได้อย่างไร”

ครับ การปรับเปลี่ยนการเกษตรให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพื่อให้เกิดผลผลิตสูงสุด เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งในยุคที่ต้องการปรับเปลี่ยนนี้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cbc.ca/radiointeractives/features/feeding-the-future