โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสภาษิต
ในปี 2560 สถาบันสุขภาพแคนาดา ได้รับเรื่องเพื่อขออนุญาตขายข้าวที่มาจากข้าวดัดแปลงพันธุกรรมที่มีวิตามินเอสูง หรือข้าวสีทอง สายพันธุ์ GR2E ในประเทศ โดยข้าวสายพันธุ์ GR2E จะปลูกเป็นการค้าในท้องถิ่นที่มีพื้นที่ปลูกข้าว โดยเฉพาะในเอเชีย แต่สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติได้ได้ระบุว่า ข้าวดังกล่าวยังไม่ตั้งใจที่จะขายในขณะนี้
ทั้งนี้เป็นเพราะข้าวที่จะขายได้ในแคนาดา นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสุขภาพแคนาดาจะต้องทำการประเมินทางวิทยาศาสตร์ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า ข้าวจากพันธุ์ GR2E มีความปลอดภัยจากผู้บริโภค การเพิ่มปริมาณวิตามินเอไม่ได้มีความเสียงต่อสุขภาพของชาวแคนาดา และยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
นักวิทยาศาสตร์ยังคงต้องประเมินว่า ข้าวพันธุ์ GR2E ได้รับการพัฒนามาอย่างไร และจะเป็นพิษหรือก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้หรือไม่ แต่ไม่ได้ประเมินความสามารถของข้าวพันธุ์ GR2E ที่จะช่วยแก้ปัญหาประชากรที่ขาดวิตามินเอหรือไม่
นักวิทยาศาสตร์ที่ประกอบไปด้วย นักชีวโมเลกุล นักจุลชีววิทยา นักพิษวิทยา นักเคมีและโภชนาการ ได้ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูล และ วิธีการ ที่ได้รับมาจากผู้ยื่นขออนุญาต เพื่อให้มั่นใจว่า ผลที่ได้จากการวิเคราะห์จะมีความน่าเชื่อถือ
จากการประเมินนี้ ชี้ให้เห็นว่า ข้าวที่ได้จากสายพันธุ์นี้ไม่ก่อให้เกิดความเสียงต่อสุขอนามัยของมนุษย์ มากไปกว่าข้าวที่มาจากข้าวสายพันธุ์ปกติที่มีจำหน่ายในแคนาดาในขณะนี้นอกจากนี้ ยังไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และไม่มีความแตกต่างทางด้านโภชนาการเมื่อเทียบกับข้าวที่มาจากพันธุ์ปกติ ยกเว้นแต่ระดับวิตามินเอที่สูงกว่า
[adrotate banner=”3″]
การประเมินของสถาบันสุขภาพแคนาดา ประเมินตามคำแนะนำเกี่ยวกับการประเมินความปลอดภัยของอาหารใหม่ (Guidelines for Safety Assessment of Novel Foods) บนหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่พัฒนาโดยผู้เชียวชาญนานาชาติ มามากกว่า 20 ปี ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) องค์การความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD)
แนวทางการประเมินของแคนาดา ได้ถูกนำไปใช้ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
ครับ อีกไม่นานคงมีหลายประเทศในเอเชียที่อนุญาตให้ปลูกข้าวสีทอง แต่คงไม่มีประเทศไทยครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.canada.ca/…/approved-prod…/golden-rice-gr2e.html