“ธรรมนัส-อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” ประสานเสียงยีนยันเทคโนโลยี Gene Editing ไม่ใช่ GMOs รวม.เกษตรฯลั่นพร้อมลุยในยุคนี้

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมวิชาการเกษตร ระดมมันสมอง จัดถก “เทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาภาวะวิกฤตโลกเดือด และศัตรูพืชอุบัติใหม่” รองรับวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบความมั่นคงทางอาหารของโลก “ธรรมนัส-อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” ประสานเสียงเดียวกัน ยืนการแก้ไข/ปรับแต่งยีน ไม่ใช่ GMOs  รมว.เกษตรฯประกาศก้องพร้อมที่จะขับเคลื่อนภายในยุคนี้

วันที่ 29 มกราคม 2567 สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร  จัดสัมมนาวิชาการ “เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ในการแก้ปัญหาภาวะวิกฤตโลกเดือด และศัตรูพืชอุบัติใหม่” ณ ห้องประชุมกองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร  เพื่อระดมความคิด แนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ Gene Editing หรือ GEd และความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ จากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนสมาคมฯ นักวิชาการ จากภาคส่วนต่าง ๆ ที่มาร่วมสัมมนาในครั้งนี้

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวย้ำว่า การจัดประชุมสัมมนาวิชาการในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่มีนัยสำคัญ เพื่อระดมความคิดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย ให้ทัดเทียมนานาประเทศ และจัดทำแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd ของประเทศไทย สื่อสารกับประชาชนและผู้บริโภค ให้เป็นที่เข้าใจว่าเทคโนโลยี GEd แตกต่างกับ GMOs รวมถึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd ในประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับภาวะวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่

“เทคโนโลยี Gene Editing ไม่ใช่ GMOs ไม่ได้เอาสิ่งแปลกปลอมจากที่อื่นมาใส่ แต่เป็นแก้ไขยีนภายในของพืชชนิดนั้นๆ เพื่อสร้างความแข็งแรงของพืช ฉะนั้นการประชุมสัมมนาวันนี้จะเป็นนัยสำคัญ จะนำไปสู่ท่าทีที่ชัดเจนของประเทศไทย ในด้านเทคโนโลยี GEd ที่จะต้องมีการแก้ไขระเบียบต่างๆ และให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd อย่างเป็นรูปธรรม ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป” นายระพีภัทร์  กล่าว

ช่วงบ่ายร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างมอบนโยบายว่าด้วย “เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ในการแก้ปัญหาภาวะวิกฤตโลกเดือด และศัตรูพืชอุบัติใหม่” ให้กรมวิชาการเกษตรนำไปดำเนินการว่า  กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการวิจัยและพัฒนา ที่ขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศไทย ซึ่งในภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วและรุนแรง  จนเลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกประกาศว่า “ยุคโลกร้อนสิ้นสุดลง ยุคโลกเดือดมาถึงแล้ว”

ทั้งนี้ภาวะดังกล่าวก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชอุบัติใหม่ที่สำคัญ อาทิ โรคใบด่างมันสำปะหลัง โรคใบร่วงยางพารา ประกอบกับจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก ในฐานะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่และเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี การนำเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง คุ้มค่า พัฒนาได้รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ จึงมีความจำเป็น

ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักถึงปัญหาภาวะวิกฤตดังกล่าว จึงเร่งผลักดันส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd ให้ก้าวทันบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ Gene Editing หรือ GEd ในการแก้ไข หรือปรับแต่งยีนให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์ ต้านทานศัตรูพืช มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มขึ้น ผลผลิตสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตลดลง

ที่สำคัญเทคโนโลยี GEd ไม่มียีนถ่ายฝากจากสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่จัดว่าเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรม หรือ GMOs และมีความปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเทคโนโลยี GEd ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO), OECD มี 13 ประเทศประกาศสนับสนุนในที่ประชุม WTO ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd เชิงการค้าและการบริโภคร่วมกัน

นอกจากนี้กว่า 40 ประเทศทั่วโลก อาทิ แคนาดา อเมริกา บราซิล อาร์เจนตินา ชิลี ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ ฟิลิปปินส์ เคนยา รัสเซีย และออสเตรเลีย ประกาศใช้นโยบาย no transgene = not GMOs โดยถือว่าพืช GEd มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับพืชปกติทั่วไป ที่สำคัญองค์กรนานาชาติ และประเทศต่าง ๆ เร่งลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี GEd เพื่อรองรับวิกฤตการณ์ความมั่นคงทางอาหารของโลก

ดังนั้นขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุนการขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd และกำหนดท่าทีที่ชัดเจนของประเทศไทยในทิศทางเดียวกัน กรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน รวมถึงเชิญผู้เชี่ยวชาญจาก FAO และประเทศต่าง ๆ อาทิ อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ร่วมผลักดันและสร้างความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้

“ในต่อเมื่อเทคโนโลยี Gene Editing ไม่ใช่การตัดแต่งพันธุวิศวกรรม หรือ GMOs รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์และเป็นรูปธรรม ผมขอพูดให้เสียงดังๆไปเลยว่า ผมจะขับเคลื่อนเทคโนโลยีนี้ภายในยุคนี้”  รมว.เกษตรฯ กล่าว