นักวิชาการเกษตร มก.ชี้ โดรนการเกษตร มีความสำคัญต่อภาคการเกษตรยุคใหม่ ที่จะเพิ่มด้านประสิทธิภาพ มีความแม่นยำทางการเกษตรสูง ช่วยลดการใช้แรงงานในการผลิต ลดการใช้น้ำ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เผยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีไปไกลแล้ว และเป็นผู้นำเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดรน ขณะที่ไทยจัดเป็นประเทศอันดับต้นในอาเซียนที่ไล่ตามมาทันจนกลายเป็นนวัตกรรมสำหรับวันนี้
วันที่ ื5 กันยายน 2565 คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)-สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย (ไททา) ร่วมกับภาคีเครือข่าย กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช บริษัทวรุณา (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอทีไอ เทคโนโลยีส์ จำกัด และบริษัท ไอ ซี พี เอ็กซ์ จำกัด ร่วมจัดอบรมกิจกรรม โดรนการเกษตรเพื่ออนาคต (Drone for Tomorrow) เพื่อสร้างการเรียนรู้โดรน รู้กฏระเบียบ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดรนเพื่อการเกษตรสู่เยาวชนและชุมชน ให้เกิดแรงจูงใจในการพัฒนาการใช้โดรนเพื่ออนาคต
รศ.ดร.สุดสายสิน แก้วเรือง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะเกษตรฯ มก.กล่าวว่า เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน (Drone) เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำทางการเกษตรสูง ช่วยลดการใช้แรงงานในการผลิต ลดการใช้น้ำอีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกพืชอย่างแม่นยำ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างมหาศาล
โดรนมีประโยชน์มากในแง่ประสิทธิภาพ ประหยัดค่าแรงและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดรนได้รับการยอมรับในเอเชียอย่างรวดเร็วมากกว่าภูมิภาคอื่นของโลก ในขณะที่จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีเป็นผู้นำเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดรน ซึ่งมีอยู่ในแทบทุกอุตสาหกรรมหรือทุกสายอาชีพ ส่วนประเทศไทยจัดเป็นประเทศอันดับต้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไล่ตามมาทัน จนสามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดรนมาพัฒนาและปรับใช้เพื่อยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยได้อย่างรวดเร็ว
อย่างำรก็ตาม สำหรับประเทศอื่นๆ ของโลกโดรนอาจเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ แต่ในประเทศไทยและหลายประเทศในเอเชีย โดรนคือนวัตกรรมสำหรับวันนี้ที่สำคัญต่อการทำเกษตรอย่างแม่นยำ รวมถึงเข้าไปช่วยในอุตสาหกรรมที่หลากหลายได้ หากพูดถึงโดรนในวันพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ผิดเนื่องด้วยในขณะนี้เราเป็นผู้นำ เรายังถือว่าอยู่ที่จุดเริ่มต้น ต้องการการต่อยอด การพัฒนา และการทำงานร่วมกันหลากหลายหน่วยงาน หลากหลายอาชีพ เพื่อให้รู้ถึงความเสี่ยงหากโดรนถูกจัดการอย่างไม่ถูกต้อง และต้องแน่ใจว่าการใช้โดรนในการเกษตร รวมถึงภาคการผลิตและอุตสาหกรรมอื่นจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
ด้าน น.ส. เดลิสา เจียง ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน และหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการโดรน ครอปไลฟ์แห่งเอเชีย เปิดเผยว่า นวัตกรรมโดรนในการเกษตรมีความสำคัญต่ออาชีพเกษตรกรรมในบ้านเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากประชากรโลกที่เติบเพิ่มขึ้น มีความต้องการอาหารที่มากขึ้น ในเวลาเดียวกันธรรมชาติก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สภาพภูมิอากาศแปรปรวน มีชีวิตในเมืองที่เพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าพื้นที่การเกษตรที่น้อยลง การสูญเสียพืชผลที่เพิ่มขึ้นเนื่องด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ และการขาดแคลนแรงงานในฟาร์ม ดังนั้นการใช้โดรนจึงมีประโยชน์หลายประการต่อความท้าทายเหล่านี้
สำหรับการอบรมในครั้งนี้ โดยการเรียนรู้กฎระเบียบโดรนเบื้องต้น ทำให้สามารถพัฒนาและเอาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ตามความเหมาะสมได้ จากการจัดกิจกรรมดังกล่าว เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ รวมถึงวิธีการใช้โดรนอย่างถูกต้องและปลอดภัย มีการเรียนรู้ภาคสนาม แบ่งเป็น 5 ฐานการศึกษา ได้แก่ การฝึกบินโดรนเบื้องต้น การใช้โดรนอย่างปลอดภัย การฝึกบินด้วยเครื่องจำลองการบิน (Flight Simulators) ศักยภาพของโดรนแต่ละประเภท และการทดสอบประสิทธิภาพการบินโดรนทางการเกษตร
ทั้งนี้ทำให้นิสิตนักศึกษา เกษตรกร รวมถึงผู้ที่สนใจใช้โดรนทางการเกษตรสามารถนำมาประยุกต์ใช้โดรนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ที่สนใจได้เข้าถึงหลักสูตรได้อย่างดี สำหรับกิจกรรมดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับอันดีจากกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยมีนิสิตและผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 170 คน ซึ่งคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้จะถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นใหม่ได้อย่างกว้างขวาง น.ส. เดลิสา กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนเกษตรกร หรือบุคคลผู้สนใจ กิจกรรมโดรนการเกษตรเพื่ออนาคต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร 02-579-0588 หรือ ดร.วีรชัย มัธยัสถ์ถาวร โทร 086-042-5250 สมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/taitacroplifethailand