อลงกรณ์ พลบุตร
กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าโครงการพัฒนาการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล (QuickWin) หวังจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และประชาชนทั่วไป ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชันสหกรณ์ “Coop Care” เสริมมาตรการรับมือฤดูกาลผลไม้ปีนี้
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโนบายเร่งด่วนในการนำเทคโนโลยีมาให้บริการประชาชน ให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ในการเข้าถึงข้อมูล และบริการต่างๆ ของหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 22 หน่วยงาน ภายใต้โครงการพัฒนาการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล (QuickWin) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และประชาชนทั่วไป ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นการพัฒนาในทุกมิติ ตั้งแต่ด้านการผลิตจนถึงด้านการตลาด โดยเฉพาะการรับมือการซื้อขายผลไม้ในปีนี้ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน และตามนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0
ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามแนวนโยบายดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงพัฒนา Mobile Application “ระบบบริการข้อมูลสหกรณ์ Coop Care” โดยใช้แนวคิดในการบริการข้อมูลการสนับสนุนเกษตรกร เอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ให้สามารถวางแผน และทราบถึงแหล่งผลิต และอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถนำมาช่วยเพิ่มผลผลิตได้
นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวว่า สำหรับในการให้บริการของระบบบริการข้อมูลสหกรณ์ Coop Careนั้นสามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุม ประกอบด้วย 1.ข้อมูลพิกัดของสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกร ตลอดจนประชาชนทั่วไปสามารถ สมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ เพื่อรับบริการด้านต่าง ๆ ได้ทั้งด้านการออมทรัพย์ การให้สินเชื่อ และการรวบรวมผลผลิต ตลอดจนการรวมตัวการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้
2. ข้อมูลแหล่งรับซื้อ / แหล่งรวบรวมผลผลิตของสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกร ตลอดจนประชาชน บริษัทฯ สามารถทราบแหล่งรับซื้อผลผลิตต่าง ๆ ของสหกรณ์ เป็นไปตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการใช้ตลาดนำการผลิตและเป็นการเปิดโอกาส ช่องทางในการทำธุรกิจรับซื้อ/ขายผลผลิตของเกษตรกร ตลอดจนประชาชนทั่วไป
3.ข้อมูลแหล่งผลิตสินค้าแปรรูปของสหกรณ์ เพื่อเป็นการให้บริการที่เน้นไปทางการท่องเที่ยวและแนะนำสินค้าแปรรูปทางการเกษตร เพื่อให้ทราบถึงแหล่งผลิตสินค้าแปรรูปด้านต่างๆเช่น ผ้าพื้นเมือง เครื่องประดับท้องถิ่น ตลอดจนสินค้าแปรรูป อื่นๆ ทางการเกษตร,4.ข้อมูลอุปกรณ์การตลาด เพื่อเป็นการให้บริการข้อมูล อุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิต และการวางแผน การแก้ไขปัญหา เช่น ฉาง โรงสี ไซโล ลานตาก เครื่องอบลดความชื้น รถเกี่ยวข้าว ฯลฯ เพื่อให้เกษตรกร/ประชาชน ภาคเอกชน ติดต่อ ในการใช้บริการเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกบริการจะมีพิกัด ระยะทาง สามารถค้นหาจาก Application ครอบคลุมทุกบริการและใช้ระบบนำทางร่วมกับโปรแกรม Google Map ได้จะเห็นได้ว่าจาก Application ดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์มีการผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการวางแผน ส่งเสริม และสนับสนุน แก้ไขปัญหาทั้งในด้านการผลิตและการตลาด รวมทั้ง การประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบข้อมูล ตลอดจนการสนับสนุนภาคเอกชน ให้ได้รับข้อมูลเพื่อใช้ในการทำธุรกิจกับสหกรณ์เป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับผู้สนใจสามารถ download ใช้งานได้ฟรี ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android บน App Store และ Google play store โดยพิมพ์คำค้น “Coop Care”