สวทน.จับมก.ปั้นบุคลากรเฉพาะทางหวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตฯอาหารอย่างยั่งยืน

  •  
  •  
  •  
  •  

สวทน.ร่วมกับ ม.เกษตรฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืน ด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากต่างประเทศมาถ่ายทอดองค์ความรู้สู่กลุ่มผู้ประกอบการและนักวิจัยในวงกว้าง หวังพัฒนาบุคลากรเฉพาะทางและการถ่ายโอนความรู้ข้ามพรมแดน ให้เป็นกิจกรรมรูปแบบใหม่สู่เศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด พร้อมเร่งพัฒนากำลังคนด้านวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเกษตรให้เกิดความยั่งยืน ผ่านการถ่ายโอนความรู้เชิงลึกและนวัตกรรมขั้นสูงจากผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ  

                ผศ. ดร.พูลศักดิ์  โกษียาภรณ์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านนโยบายนวัตกรรมการพัฒนากำลังคนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) เปิดเผยว่าจากตัวเลขในปี2560 อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 3 ล้านล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการในรูปแบบบริษัทจดทะเบียนรวมประมาณ 8,500 ราย ทั้งนี้หากรวมจำนวนบริษัทผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดเล็กคาดว่าจะมีจำนวนผู้ประกอบการทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย โดยประเทศไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูป(agro-manufacturing products) สูงถึง25,872 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 878,102 ล้านบาท ทั้งนี้เฉพาะหมวดอาหารและเครื่องดื่มมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 16,882 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 572,998 ล้านบาท

 จากมูลค่าการส่งออกที่ค่อนข้างสูงนี้ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหารในลำดับต้นๆของโลก อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมอาหารในประเทศยังคงประสบปัญหาหลายด้านที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืนในตลาดโลก ซึ่งปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือการขาดการพัฒนาบุคลากรและการถ่ายโอนความรู้ที่ทันสมัยอย่างทันท่วงที รวมถึงขาดการประยุกต์ใช้องค์ความรู้เชิงลึกและเทคโนโลยีเฉพาะทางเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดในการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีรวมถึงมีข้อจำกัดในเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย

 สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสถานประกอบการทั้งในและต่างประเทศก็ประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทางเช่นกัน โดยเฉพาะองค์ความรู้เชิงลึกที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ การใช้ความดันสูงในการแปรรูปอาหาร การใช้เทคนิคโอห์มมิค เป็นต้น ตลอดจนยังขาดความเข้าใจและการเข้าถึงการวิเคราะห์ตรวจสอบเชิงลึกที่เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาให้สินค้ามีมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งการที่จะพัฒนาให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารของไทยสามารถวิจัยและพัฒนาสินค้าอาหารที่มีนวัตกรรมสูงขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีการแปรรูปขั้นสูงเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า รวมถึงสามารถแก้ปัญหา ขจัดอุปสรรคทางการค้าจากการกีดกันด้านมาตรฐานสินค้า และนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมอาหารได้อย่างรวดเร็วทันต่อการแข่งขันในระดับโลกได้นั้น จำเป็นต้องมีการพัฒนาและเสริมสร้างองค์ความรู้เชิงลึกรวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีด้านการอาหารที่ทันสมัยให้แก่บุคลากรในภาคเอกชน

“เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึกเฉพาะทางในบางเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมีความจำเป็นต้องอาศัยการถ่ายโอนความรู้จากนักวิจัยหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความชำนาญสูงจากต่างประเทศเป็นส่วนมาก สวทน. จึงได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดทำโครงการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาบุคลากรเฉพาะทางและการถ่ายโอนความรู้ข้ามพรมแดน ในครั้งนี้ขึ้น” ดร.พูลศักดิ์ กล่าว

สำหรับการดำเนินโครงการในครั้งนี้ สวทน. และ ม.เกษตร มีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะนำร่องรูปแบบโครงการสำหรับการพัฒนาบุคลากรของอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อให้มีองค์ความรู้เชิงลึกหรือเทคโนโลยีขั้นสูงเกี่ยวกับด้านอุตสาหกรรมอาหารจากผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และเกิดการถ่ายโอนองค์ความรู้ดังกล่าวสู่ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและนักวิจัยในภาคการศึกษา รวมถึงเอกชนสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาสินค้าอาหารที่มีนวัตกรรมสูงขึ้นสามารถขจัดอุปสรรคทางการค้าจากการกีดกันด้านมาตรฐานสินค้า และนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมอาหารให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้

ทั้งนี้คาดว่าโครงการจะส่งผลให้เกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมอาหารในมิติต่างๆ อาทิ การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาลดความเสียหายในการผลิต หรือเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด ซึ่งคิดเป็นมูลค่าของผลกระทบอย่างน้อย 10 ล้านบาทต่อปี โดยจะเริ่มเห็นผลกระทบในปีที่ 3 ของการดำเนินโครงการ

ด้าน ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืนฯ เป็นโครงการรูปแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ด้านการรับการถ่ายโอนองค์ความรู้เชิงลึกหรือเทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารจากผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และเกิดการถ่ายโอนองค์ความรู้ดังกล่าวสู่ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องและนักวิจัยในภาคการศึกษาผ่านการเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากต่างประเทศมาถ่ายทอดองค์ความรู้สู่กลุ่มผู้ประกอบการและนักวิจัยในวงกว้าง เพื่อเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยี และดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึกสู่กลุ่มผู้ประกอบการเป้าหมายเฉพาะรายโดยอาศัยกรณีศึกษาจริง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเทคโนโลยีนั้นๆ อย่างถ่องแท้และสามารถประยุกต์ต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ เพื่อให้องค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากต่างประเทศยังคงอยู่ภายในประเทศรวมถึงมีการถ่ายทอดในประเทศต่อไปได้ในระยะยาวและขยายเป็นวงกว้าง โครงการจึงได้มีการดำเนินงานในการสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในภาคการศึกษาเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการรับการถ่ายทอดองค์ความรู้นั้นจากผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศสู่ภาคเอกชนได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ในบางกรณีการถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะทางทั้งด้านการบริหารจัดการเครื่องมือและสถานที่ เทคนิคเฉพาะในการวิจัยพัฒนาหรือการวิเคราะห์ตรวจสอบเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารที่มีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องมีนักวิจัยไทยที่มีความสามารถไปรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในสถานที่จริง ณ ต่างประเทศ เพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ อาทิ การบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและข้อบังคับระหว่างประเทศ ขั้นตอนการให้บริการกับภาครัฐและเอกชน และแนวปฏิบัติในการดำเนินการภายในของหน่วยวิจัยและห้องปฏิบัติการนั้นๆ เป็นต้น เพื่อให้นักวิจัยสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้มาขยายผลสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศ และสามารถนำเสนอรายงานภาพรวมของการเตรียมพร้อมทั้งด้านของสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ รวมทั้งเทคนิคการวิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติได้

หนึ่งในกิจกรรมเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากต่างประเทศมาถ่ายทอดองค์ความรู้สู่กลุ่มผู้ประกอบการและนักวิจัยในวงกว้าง ภายใต้โครงการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอาหารอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาบุคลากรเฉพาะทางและการถ่ายโอนความรู้ข้ามพรมแดน” (Sustainable Economy Driving of Food Industry by Specialized Personnel Development and Cross Border Knowledge Transfer)จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มกราคม –30 สิงหาคม 2562 โดยแบ่งเป็น 7 หลักสูตร ประกอบด้วย

หลักสูตรที่ 1 Biomass Recovery Technology for Economic Value Added: เทคโนโลยีการแปรรูปชีวมวลเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ หลักสูตรที่ 2 Food Contact Materials Laws and Regulations: R&D, Testing Protocols and Management: กฎระเบียบวัสดุสัมผัสอาหาร การวิจัยและพัฒนา วิธีการทดสอบและการจัดการหลักสูตรที่ 3 Agro-Food Biowaste Tapping and Bio-Refinery: เทคโนโลยีการผลิตสารสกัดและการใช้ประโยชน์จากของเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมเกษตรหลักสูตรที่ 4 Innovative Food Technologies for The 21st Century: นวัตกรรมการแปรรูปอาหารสำหรับศตวรรษที่ 21

หลักสูตรที่ 5 Beverage Industry Solutions: Technology and Safety Challenges: เทคโนโลยีเครื่องดื่มเพื่อคุณภาพและความปลอดภัยหลักสูตรที่ 6 R&D Innovation Technology Management for Business: การจัดการเทคโนโลยีและการวิจัยพัฒนานวัตกรรมเพื่อธุรกิจหลักสูตรที่ 7 Technology for Value Creation of Alternative Protein Based Product and Agro-Industrial and Food Waste Utilization: เทคโนโลยีการผลิตโปรตีนทางเลือกและการใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอาหารโดยผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่ง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณวาราดา โทรศัพท์ 08-5833 – 3454 อีเมล warada.t@ku.ac.th(ไม่มีค่าใช้จ่ายในการอบรม)

 

หมายเหตุ :  ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย