ยึดพื้นที่ 1,300ไร่ที่ศูนย์ฯปลวกแดง “พัฒนาเกษตรสมัยใหม่”

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ จับมือ 5 หน่วยงานลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ โครงการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ ยึดศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงฯ บนพื้นกว่า 1.3 พันไร่ เนรมิตเป็นต้นแบบประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา-ไอทีสมัยใหม่พัฒนาเกษตรกรไทยสู่ “เกษตรอัจฉริยะ4.0” และผลักดันเป็นศูนย์กลางเรียนรู้การทำเกษตรสมัยใหม่ครบวงจรและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

           นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง    ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินการ “โครงการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ในศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง” ระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดระยอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (Gistda) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ณ ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริจังหวัดระยอง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ว่า  ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง ได้ดำเนินการสนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ปี 2523 ซึ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำ ดอกกราย อ.ปลวกแดง จ.ระยอง สามารถส่งน้ำมายังพื้นที่ดังกล่าวได้ และทรงแนะนำให้จัดเป็นศูนย์กลางอาชีพการเกษตรและศิลปาชีพพิเศษแก่ราษฎร

         ปัจจุบันคือ “ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง” ที่มีพื้นที่กว่า 1,300 ไร่ และทรงพระราชทานแนวทางการพัฒนาเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2523 ไว้ 4 ประการ คือ 1) พัฒนาด้านการเกษตร โดยเฉพาะด้านปศุสัตว์และการประมงเพื่อการบริโภคและสำรองอาหาร 2) มีศูนย์ฝึกปฏิบัติการด้านประกอบอาชีพ มีแปลงสาธิต ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ควบคู่กันไป 3) ให้จัดเป็นศูนย์กลางส่งเสริมการเลี้ยง ปศุสัตว์ โดยให้ราษฎร์ยืมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดีไปผสมหรือเลี้ยงแล้วส่งลูกคืน และ 4) มีศูนย์พัฒนาการเกษตร 

       

         สำหรับศูนย์แห่งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ไว้ให้ราษฎร์ศึกษาและเยี่ยมชมเพื่อนำเอาแบบอย่างมาดำเนินการและจัดการไร่นา นำไปพิจารณาตัดสินใจในการปรับปรุงไร่นาของตนเอง ปัจจุบันภายในศูนย์ฯ มีแปลงสาธิตของราษฎรตัวอย่าง จำนวน 4 หลัง พื้นที่  หลังละ 4 ไร่ โดยทำการเกษตรแบบผสมผสาน และศูนย์เข้ามาส่งเสริมอาชีพการเกษตรอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้มีเป้าหมายขยายผลแปลงสาธิตในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่ อ.ปลวกแดง อ.นิคมพัฒนา และอ.บ้านค่าย ประกอบด้วย ครัวเรือนต้นแบบ 120 ครัวเรือน และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 5 ศูนย์

          ดังนั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้น้อมนำหลักทั้ง 4 ประการ มาดำเนินการจัดทำเป็นฐานเรียนรู้ทั้ง 7 ด้าน    ในพื้นที่ 1,300 ไร่ อาทิ ด้านพืชสวน ด้านพัฒนาที่ดิน ด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ด้านข้าว ด้านชลประทาน และ         ด้านวิชาการเกษตร โดยให้หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมพัฒนาที่ดิน และกรมชลประทาน พัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่  จัดแสดง สาธิต และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ให้กับประชาชนทั่วไป

        อีกทั้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะพัฒนาพื้นที่เหล่านี้ให้เป็นพื้นที่เกษตรสมัยใหม่ โดยนำเทคโนโลยีจากงานวิจัย การพัฒนา ล่าสุด หรือที่ดีเด่น อันเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรนำมาจัดแสดงหรือนำมาใช้ในพื้นที่ในแต่ละฐานการเรียนรู้ จะทำให้เป็นพื้นที่พร้อมสำหรับบริการแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) เกษตรกรผู้นำ (Smart Farmer) และเกษตรกรทั่วไป รวมทั้ง ผู้ที่มาศึกษาดูงานและเยี่ยมชม ตลอดจนในอนาคตจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ซึ่งผู้สูงวัยที่มีความสนใจ มีทุน จะสามารถทำการเกษตรได้อย่างง่ายเช่นกัน ผ่านโปรแกรม Application ในโทรศัพท์มือถือ ให้ผู้สูงอายุที่มีพื้นที่และเงินทุนที่สามารถดำเนินการทำเกษตรสมัยใหม่ได้ต่อไป

          นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมพื้นที่อีกประมาณ 400 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนผู้สนใจได้เรียนรู้เรื่องการทำเกษตรสมัยใหม่และศาสตร์พระราชา โดยจะดำเนินการใช้แนวทาง 3 ส่วน คือ 1) ให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มา “แต่ง” จัดทำเป็นพื้นที่ทดสอบ (Test Based Area) เกษตรสมัยใหม่ หรือเกษตร 4.0 เต็มรูปแบบด้วยแนวทางประชารัฐ คือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ จังหวัดระยอง อบจ.ระยอง Gistda สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีความพร้อมร่วมมือดำเนินการ

[adrotate banner=”3″]

          2) แบ่งพื้นที่ ให้เกษตรกรรุ่นใหม่ที่สนใจทำการเกษตรได้เข้ามาศึกษา ฝึกปฏิบัติ เพื่อการประกอบอาชีพ ทำเกษตรสมัยใหม่อย่างเต็มรูปแบบ และทดลองทำเกษตรสมัยใหม่ เพื่อนำประสบการณ์ความรู้จริงในพื้นที่กลับไปปฏิบัติและปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรียนรู้ในฐานเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โรงเรือนอัจฉริยะ ระบบการควบคุมอุณหภูมิ ระบบการควบคุมน้ำ ระบบการให้อาหารปลาอัตโนมัติ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้การทำเกษตรเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และนำกลับไปประกอบอาชีพได้ต่อไป

         3) ให้ภาคเอกชน รวมถึงบริษัทด้านเครื่องมือเทคโนโลยีด้านการเกษตรต่าง ๆ ใช้พื้นที่ในการโชว์เทคโนโลยีของตนเองได้ (Show Case Area) โดยจะมีการใช้เทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT ซึ่งจะทำให้การจัดการเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ต้องมีการศึกษา วิเคราะห์ และดำเนินการให้ถูกต้องตาม ระเบียบ กฎหมาย ต่อไป

          “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงให้กับผู้มีอาชีพเกษตรกร เพราะเกษตรกรเป็น       ผู้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ โดยศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ จังหวัดระยอง      จะเป็นสถานที่สำคัญในการให้ความรู้และฝึกอบรมให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจทำการเกษตร ได้ศึกษาหาความรู้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ เพื่อนำไปปรับใช้ในสวนและไร่นาของตนเอง โดยเทคโนโลยีที่จะนำมาแสดงนั้นมีความแม่นยำ ส่งผลให้การควบคุมการผลิต รวมถึงผลผลิตที่ได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปด้วย และยังเป็นการลดการใช้แรงงานในครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงานและแรงงานค่อนข้างมีอายุสูง การใช้ปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย และสารเคมี ลดลง ซึ่งหลังจากวันนี้ หน่วยงานต่าง ๆ จะร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาในศูนย์ฯ ให้มีความสมบูรณ์พร้อมให้บริการเยี่ยมชม และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายดำเนินการให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้” รมว.เกษตรฯ กล่าว