
สทนช. พบไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นจากอิทธิ พลของพายุฤดูร้อนจนถึง 30 มี.ค. นี้ ก่อนฝนจะกลับมาช่วยลดร้อนอีกครั้ งช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เม.ย. 67 ด้านสถานการณ์ระดับน้ำโขงเปลี่ ยนแปลงฉับพลันจากการระบายน้ำ ของเขื่อนจิ่งหง ขณะนี้ยังไม่พบผู้ได้รับผลกระทบ แต่จะติดตามเฝ้าระวังใกล้ชิด
วันที่ 27 มีนาคม 2567) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมติ ดตามและประเมินสถานการณ์น้ำ ประจำสัปดาห์ ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จากการติดตามคาดการณ์ สภาพอากาศโดยกรมอุตุนิยมวิ ทยาและ สสน. พบว่า ในระยะนี้ประเทศไทยมีปริ มาณฝนเพิ่มขึ้นจากอิทธิ พลของพายุฤดูร้อน โดยตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 67 มีฝนตกมากในพื้นที่ภาคตะวั นออกเฉียงเหนือ และหลังจากนี้ยังมีโอกาสจะเกิ ดฝนในพื้นที่ภาคตะวั นออกและภาคใต้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนดังกล่าวจะค่อย ๆ ลดลงในวันที่ 30 มี.ค. 67 ก่อนจะมีแนวโน้มที่ฝนจะเพิ่มขึ้ นอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดอุณหภูมิที่ เพิ่มสูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ปริมาณฝนจะเริ่มตกมากตั้งแต่ช่ วงเดือน พ.ค. 67 แต่คาดว่าอาจจะเกิดสถานการณ์ ฝนทิ้งช่วงได้ประมาณเดือน ก.ค. 67 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวั นออกเฉียงเหนือ ซึ่ง สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมี การประชุมติดตามและประเมิ นสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นข้อมูลสำหรั บเกษตรกรเพื่อนำไปใช้ วางแผนการเพาะปลูกได้อย่ างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ดร.สุรสีห์ กล่าวอีกว่า แม้ในช่วงที่ผ่ านมาประเทศไทยจะประสบกั บสภาวะเอลนีโญซึ่งทำให้มีฝนตกน้ อยกว่าค่าเฉลี่ย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บู รณาการร่วมกันในการกักเก็บปริ มาณน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้ปัจจุบันปริมาณน้ำ ในแหล่งน้ำทั้งประเทศมีปริมาณ 60% ของความจุ ซึ่งน้อยกว่า ณ ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ วอยู่ 4% แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี จึงมั่นใจได้ว่าจะมีปริมาณน้ำ สำหรับอุปโภค บริโภค การเกษตร และรักษาระบบนิเวศอย่างเพียงพอ แต่สำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปรั งในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่ งมีจำนวนพื้นที่เพาะปลูกเกินแผน ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำหลายแห่งมี การจัดสรรน้ำเกินแผนที่วางไว้
ดังนั้นกรมชลประทานได้เสนอขอปรั บแผนการจัดสรรน้ำของลุ่มน้ำเจ้ าพระยาต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (กนช.) ในวันนี้ และขอเน้นย้ำว่ายังจำเป็นต้องมี การรณรงค์งดทำนาปรังรอบที่ 2 อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเผชิญปั ญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต นอกจากนี้ ในการประชุม กนช. วันนี้ สทนช. จะเสนอ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 เพื่อเร่งเตรียมพร้อมรองรับฤดู ฝนที่คาดว่าจะเกิดสภาวะลานีญาด้ วย

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ซึ่ง สทนช. ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อเฝ้ าระวังผลกระทบจากระดับแม่น้ำ โขงเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ในช่วงวันที่ 26 – 31 มี.ค. 67 บริเวณสถานีเชียงแสน จ.เชียงราย สถานีเชียงคาน จ.เลย และตั้งแต่สถานีหนองคาย จ.หนองคาย จนถึงสถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี เนื่องจากมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้ นจากเขื่อนจิ่งหง สาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าระดับน้ำจะมีการเพิ่ มสูงขึ้นประมาณ 0.3 – 0.7 ม. ซึ่งไม่ได้อยู่ในระดับที่สู งมากนัก โดยจากการติดตามสำรวจ ขณะนี้ไม่พบว่ามีประชาชนได้รั บผลกระทบ แต่จะยังคงมีการเฝ้าระวั งสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ในการประชุมวันนี้ สทนช. ยังได้ติดตามปัญหาการเจริญเติ บโตของสาหร่ายในแม่น้ำเจ้ าพระยาซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิ ตน้ำประปา โดยการประปานครหลวงได้มีการเฝ้ าระวังคุณภาพน้ำและบำบัดน้ำอย่ างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุ ขและองค์การอนามัยโลก ที่มีความสะอาดปลอดภัยต่อสุ ขภาพของประชาชนทุกคน