ได้ฤกษ์เปิดแล้วสถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวาง ติดเรดาร์ตรวจอากาศ ชนิด S-Band ครอบคลุม 16 จังหวัด

  •  
  •  
  •  
  •  

ได้ฤกษ์เปิดแล้วสถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ติดเรดาร์ตรวจอากาศ ชนิด S-Band  มีรัศมีการตรวจ 240 กิโลเมตรครอบคลุม 16 จังหวัด ทางภาคเหนือตอนบนฝั่งตะวันออก โดยมีองคมนตรี “พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข” เป็นประธานพิธี

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 17 มกราคม 2567  พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวาง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานราชการในจังหวัดแพร่ ร่วมพิธีเปิดสถานีเรดาร์ฯ ณ สถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวาง หมู่ 5 ตำบลทุ่งศรี อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ในเนื้อที่รวม 10 ไร่ ตัวอาคารสถานีเรดาร์เป็นอาคารปูนสูง 7 ชั้น จัดสร้างขึ้นเพื่อใช้สำหรับการติดตามและศึกษากลุ่มเมฆฝน ตรวจวัดทิศทาง และความเร็วของการเคลื่อนที่ของกลุ่มฝน ตรวจสอบปริมาณน้ำฝน ติดตามลักษณะทางกายภาพของกลุ่มฝน การพยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนภัยที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

รวมทั้งสามารถประมวลผลฐานข้อมูลในทางอุตุนิยมวิทยา โดยจะนำการประมวลผลต่างๆ ที่ได้มาประกอบการวางแผนและการประเมินผลการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในภารกิจปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบภาวะภัยแล้งให้แก่เกษตรกร และเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนเก็บกักน้ำ นอกจากนี้ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ได้นำมาใช้ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ในการดัดแปรสภาพอากาศ
เพื่อเพิ่มโอกาสการปฏิบัติการฝนหลวงและประสิทธิภาพการทำงานในอนาคต

ภายในสถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวางได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการทำงาน ประกอบไปด้วย เรดาร์ตรวจอากาศ ชนิด S-Band  มีรัศมีการตรวจ 240 กิโลเมตร ทางภาคเหนือตอนบนฝั่งตะวันออกครอบคลุม 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เลย และบางส่วนของจังหวัดเพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร ตาก และแม่ฮ่องสอน เครื่องตรวจอากาศชั้นบน

สำหรับตรวจสภาพอากาศที่มีความสูงประมาณ 15 – 30 กิโลเมตรจากพื้นดิน มีรัศมีการตรวจประมาณ 30 – 70 กิโลเมตร เครื่องตรวจอากาศผิวพื้น สำหรับตรวจสภาพอากาศผิวพื้นบริเวณสถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวาง เครื่องตรวจอากาศชั้นบน แบบคลื่นสั้น สำหรับการตรวจสภาพอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ในรัศมี 10 กิโลเมตร ระบบถังวัดน้ำฝนอัตโนมัติ โดยทำการติดตั้งถังวัดน้ำฝนจำนวน 50 ถัง รอบรัศมี 240 กิโลเมตร ครอบคลุม 15 จังหวัด และโปรแกรม TITAN สำหรับการพยากรณ์สภาพอากาศและติดตามเส้นทางการบินปฏิบัติการฝนหลวง

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มต้นสถานีเรดาร์ฝนหลวงร้องกวาง ในระยะที่ 1 ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2563 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นการนำเรดาร์ตรวจวัดกลุ่มฝน ชนิด C Band ความถี่ 5.6 GHz. ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ โดยมีความสามารถในการตรวจสภาพได้เช่นกันมาใช้ตรวจสภาพอากาศในบริเวณนี้ ส่วนในระยะที่ 2 ระหว่าง
ปี พ.ศ. 2564 – 2566 ได้ทำการปรับปรุงเรดาร์ตรวจวัดกลุ่มฝนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพิ่มระบบถังวัดระดับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ จำนวน 50 จุด ครอบคลุมพื้นที่รัศมี 240 กิโลเมตร และได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน และระยะที่ 3 ระยะสุดท้ายปี พ.ศ. 2566 จนถึงปัจจุบัน

การก่อสร้างตัวอาคารได้เริ่มมาดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ให้เป็นแบบสถานีแบบประจำที่ชนิด S-Band ความถี่ 2.8 GHz. แบบ Dual Polarizationเพราะในภูมิภาคภาคเหนือฝั่งตะวันออกนั้น สถานีเรดาร์อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ รัศมีการตรวจวัดสภาพอากาศไม่ครอบคลุมบริเวณนี้ ซึ่งเท่ากับว่าได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานของสถานีเรดาร์ฝนหลวงที่อื่นๆ ด้วย และที่มากไปกว่านั้นสามารถตรวจวัดสภาพอากาศบางส่วนของจังหวัดเลย อุดรธานี ได้เช่นกัน ทำให้การส่งต่อข้อมูลสภาพอากาศประจำวันให้กับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงต่าง ๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามข้อมูลการตรวจสภาพอากาศเหล่านี้ยังมีหน่วยงานอื่นๆ นำข้อมูลไปประกอบการทำงานได้อีกด้วย สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่หน้าหลักของเว็บไซต์ เมนู “ข้อมูลสภาพอากาศ” ซึ่งจะสามารถทำให้พี่น้องเกษตรกรนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจและวางแผนการเพาะปลูก หรือพ่อค้า แม่ค้า สามารถนำข้อมูลสภาพอากาศไปประกอบได้ว่า หากขณะนี้มีกลุ่มฝนเคลื่อนตัวมาบริเวณสถานที่ค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าจะมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากฝนหรือไม่

ภารกิจดังกล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า งานโครงการในพระราชดำริฝนหลวง ที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สานต่อเป็นงานที่มีความสำคัญต่อประชาชนอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นช่วงแล้ง หรือในช่วงที่บางพื้นที่ของประเทศประสบปัญหามลพิษ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หมอกควัน ไฟป่า ก็สามารถช่วยบรรเทาและคลี่คลายได้ ขอให้ประชาชนทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในการปฏิบัติภารกิจสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ราษฎร

จากนั้นในช่วงบ่าย พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ถางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานของการปฏิบัติการฝนหลวง ในการเพิ่มเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำต่าง ๆ รวมทั้งบรรเทาภาวะวิกฤตภัยแล้ง และปัญหาหมอกควันและไฟป่า