“ธรรมนัส” ประกาศลั่น ต้องเอาคืนที่ดินของรัฐที่นายทุนครอบครองในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์ให้ได้ ยันเสมอภาค ขณะที่ภาครัฐจัดระบบสาธารณูปโภค น้ำต้องไหล ไฟต้องสว่าง รวมถึงต้องมีการส่งเสริมอาชีพให้เกิดความยั่งยืน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบปะเกษตรกร ณ พื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) แปลงหมายเลข 601 และแปลงหมายเลข 602 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ว่า ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาผู้ไร้ที่ดินทำกินโดยใช้กลไกคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งนโยบายดังกล่าว เป็นนโยบายที่เอื้อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) สามารถขับเคลื่อนภารกิจด้านการจัดที่ดินทำกินให้แก่ผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับการการลงพื้นที่ในครั้งนี้ต้องการมาดูว่าหลังจากที่ห่างหายการทำงานไป 2 ปี พื้นที่ที่มีการยึดคืนจากกลุ่มนายทุนจำนวน 10,000 กว่าไร ได้ดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งในภาพรวมได้มีการดำเนินการไปได้อย่างดี ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ และตั้งสหกรณ์ เป็นต้น แต่หลังจากนี้ ที่ดินของรัฐที่ยังอยู่ในมือของกลุ่มนายทุน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ต้องการที่จะเอาคืนมาให้กับพี่น้องเกษตรกรได้เข้าทำประโยชน์ต่อไป
“ผมขอให้ความมั่นใจว่าจะจัดสรรที่ดินทำกินอย่างเท่าเทียมและเป็นรูปธรรม ที่ดินของรัฐที่ยังอยู่ในมือของกลุ่มนายทุน จะต้องเอาคืนมาให้กับพี่น้องเกษตรกรได้เข้าทำประโยชน์ โดยที่ภาครัฐจะเข้าไปจัดระบบสาธารณูปโภค น้ำต้องไหล ไฟต้องสว่าง รวมถึงต้องมีการส่งเสริมอาชีพด้วย” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้เป็นประธานส่งมอบอาคารอเนกประสงค์ให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ดำเนินโครงการ คทช. ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ มอบหนังสือหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้กับเกษตรกร จำนวน 100 ราย เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์การเกษตร พร้อมร่วมพิธีทำขวัญข้าว/เก็บข้าวไร่ ร่วมหว่านพืชปุ๋ยสด (ปอเทือง) และปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด บริเวณสระเก็บน้ำสาธารณะแห่งที่ 4 ด้วย