บุญสม ชลพิทักษ์วงศ์
กอนช. ติดตามสถานการณ์น้ำสัปดาห์นี้ พบประเทศไทยเข้าสู่สภาวะเอลนี โญกำลังอ่อนและจะกลายเป็นเอลนีโญกำลั งปานกลางในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2566 ที่จะต้องมีการใช้ฝน ONE MAP เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำต้นฤดู แล้ง ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน คาดว่าจะมีปริมาณน้ำในอ่ างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง ทั่วประเทศ 65% ของความจุรวม ย้ำต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำ ให้เหลือสำรองถึงปีหน้า พร้อมเตรียมเริ่มซักซ้อมแผนเผชิ ญเหตุรับมือพื้นที่เสี่ยงอุทกภั ยแล้ว
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำ แห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็ นประธานการประชุมการประเมิ นสถานการณ์น้ำ ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็ กทรอนิกส์ ว่า จากการรายงานสภาพอากาศของกรมอุ ตุนิยมวิทยา พบว่า ปัจจุบันปรากฎการณ์เอนโซได้เข้ าสู่สภาวะเอลนีโญแล้ว แต่เนื่องจากยังเป็นเอลนีโญกำลั งอ่อน จึงส่งผลให้ประเทศไทยยังคงมี ฝนตกตั้งแต่ช่วงต้นปี 66 จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนมีค่อนข้างน้อย โดยต่ำกว่าค่าปกติ 28% และอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าทุกปี ทำให้ในช่วงฤดูแล้งต่อเนื่ องมาจนถึงฤดูฝน มีการจัดสรรน้ำเพื่อส่งเสริมด้ านการเพาะปลูกพืชในจำนวนค่อนข้ างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนื อและภาคกลาง โดยภาคเหนือมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่ าปกติ 38% ในขณะที่ภาคกลางมีปริมาณฝนต่ำ กว่าค่าปกติถึง 55% ทั้งนี้ จากแผนจัดสรรน้ำฤดูฝนในลุ่มน้ำ เจ้าพระยา จำนวน 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)
ขณะนี้จัดสรรน้ำไปแล้ว จำนวน 2,799 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 51% ของแผนทั้งหมด ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำจำนวนมาก เพื่อเป็นการส่งเสริมการเพาะปลู กของเกษตรกรในพื้นที่ เนื่องจากไม่สามารถปลูกข้าวนาปี โดยใช้น้ำฝนเป็นหลักได้ จากผลกระทบของเอลนีโญ โดยขณะนี้ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้ าพระยามีการเพาะปลูกไปแล้ว 5.84 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 71% ของแผนการเพาะปลูกในช่วงฤดูฝนปี นี้
นายบุญสม กล่าวอีกว่า ประเทศไทยจะประสบกับสภาวะเอลนี โญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากเอลนีโญกำลังอ่อนในปัจจุ บันจะกลายเป็นเอลนีโญกำลั งปานกลางในช่วง ต.ค. – ธ.ค. 66 หรือปลายปีนี้ จึงต้องมีการใช้ฝน ONE MAP เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำต้นฤดู แล้ง ณ วันที่ 1 พ.ย. 66 คาดว่าจะมีปริมาณน้ำในอ่ างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง ทั่วประเทศ จำนวน 46,177 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 65% ของความจุรวม ในจำนวนนี้เป็นน้ำใช้การ 22,635 ล้าน ลบ.ม. หริอคิดเป็น 48% ซึ่งปริมาณน้ำใช้การที่คาดการณ์ นี้ มีจำนวนน้อยกว่าปริมาณน้ำใช้การ ณ วันที่ 1 พ.ย. 65
ทั้งนี้หากมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมี ประสิทธิภาพก็จะมีน้ำเพียงพอ แต่เนื่องจากการคาดการณ์ ของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า สภาวะเอลนีโญจะยังคงมีอยู่อย่ างต่อเนื่องจนถึงกลางปี 67 และค่อนข้างมีความรุนแรงเพิ่ มมากขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องวางแผนบริ หารจัดการน้ำในระยะยาว 2 ปี เพื่อสำรองน้ำล่วงหน้าไว้สำหรั บการใช้น้ำในกิจกรรมต่าง ๆ ในฤดูแล้งหน้า ไปจนถึงส่งเสริมการเพาะปลูกข้ าวนาปีในช่วงฤดูฝน ปี 67 เพื่อยืนยันผลผลิตให้แก่ เกษตรกรด้วย หากเกิดกรณีฝนน้อย
สำหรับการให้ความช่วยเหลือพื้ นที่ประสบภัยแล้งในช่วงฤดูฝน กอนช. มีการติดตามสถานการณ์อย่างต่ อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เช่น อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง กอนช. ได้ประสานกับกรมป้องกั นและบรรเทาสาธารณภัย ให้มีการเคลื่อนย้ายเครื่องจั กรและเครื่องสูบน้ำระยะไกลจากส่ วนกลางเพื่อเข้าให้ความช่วยเหลื อ รวมถึง สทนช. ได้มีการประสานทุกหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องในการร่วมแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันมีการแก้ไขปัญหาในพื้ นที่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
รวมทั้ง กอนช. ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนิ นการตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการที่ 9 เร่งพัฒนาและเก็บกักน้ำในแหล่ งน้ำทุกประเภทช่วงปลายฤดูฝน รวมถึงแหล่งน้ำธรรมชาติและทางน้ำ ธรรมชาติ และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่มี การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ มีการตรวจสอบและวางแผนการใช้น้ำ ในช่วงฤดูแล้ง ปี 66/67 โดยให้เกษตรกรงดเพาะปลูกพืชต่ อเนื่อง เน้นการเพาะปลูกพืชน้ำน้อย เพื่อให้มีน้ำใช้อย่างต่อเนื่ องจนถึงปีหน้า
“ตอนนี้ กอนช. มีโครงการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุศู นย์ส่วนหน้าและการสร้างความเข้ มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ใน 6 พื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ จ.เชียงราย จ.ขอนแก่น จ.เพชรบุรี จ.ยะลา จ.ลพบุรี และ จ.ปราจีนบุรี โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่สัปดาห์นี้ ในวันที่ 29-30 มิ.ย. 66 ณ จ.เชียงราย เป็นที่แรก” รองเลขาฯ สทนช. กล่าว