ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล
กอนช. เกาะติดสถานการณ์น้ำทุกสัปดาห์ พร้อมสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องวางแผนบริหารจัดการน้ำยาวถึ งปี 67 เร่งกักเก็บน้ำและส่งต่อให้ถึ งปีหน้ามากที่สุด เพื่อรองรับสถานการณ์ฝนน้ อยจากสภาวะเอลนีโญ หลังประเมินปริมาณฝนเทียบเคี ยงปี 62 – 63
วันที่ 20 มิ.ย. 66 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้ อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็ นประธานการประชุมการประเมิ นสถานการณ์น้ำ ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ถ.วิภาวดีรังสิต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นต้น เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็ กทรอนิกส์ ว่า ในระยะนี้ กอนช. จะมีการประชุมเพื่อติ ดตามและประเมินสถานการณ์น้ำเป็ นประจำทุกสัปดาห์ ตามข้อสั่งการของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมื อกับผลกระทบของสภาวะเอลนีโญ ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นยาวไปถึ งปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในปี 66 และ 67 จะคล้ายกับสถานการณ์น้ำเมื่อปี 62 ซึ่งเกิดสภาวะเอลนีโญต่อเนื่ องจนถึงปี 63 เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่ วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมในการบริ หารจัดการน้ำเขื่อนต่างๆ รวมถึงแหล่งน้ำสำรองในการให้ ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้รั บผลกระทบน้อยที่สุด โดยใช้ข้อมูลในปี 63 เพื่อประเมินปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 สำหรับใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ระยะยาว 2 ปี โดยมุ่งกักเก็บน้ำต้นทุนส่งต่ อไปยังปี 67 ให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิ ดภัยแล้งหากยังคงมีปริมาณฝนน้ อยต่อเนื่องถึงปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันคาดว่าเมื่อสิ้ นสุดฤดูฝนปีนี้ ปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย. 66 จะมีปริมาณเพียง 60-70% เท่านั้น
เนื่องจากมีปริมาณฝนน้อย ส่งผลให้ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าอ่ างเก็บน้ำต่าง ๆ น้อยมาก เช่น เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำน้อย ปัจจุบันจึงต้องใช้น้ำจากเขื่ อนภูมิพลในการช่วยหล่อเลี้ ยงเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้ าพระยา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีน้ำไหลเข้าเพิ่ม ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลจึงพร่ องลงไปเรื่อย ๆ ดังนั้น ในปีนี้จึงต้องมีการเน้นย้ำ ในเรื่องการรณรงค์ช่วยกันใช้น้ำ อย่างประหยัด สร้างความรู้ความเข้าใจให้ เกษตรกรได้เข้าใจสถานการณ์น้ำทั้ งในปีนี้และปีหน้า โดยส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกเพี ยงหนึ่งรอบเท่านั้น เพื่อสงวนน้ำไว้สำหรับกิจกรรมต่ าง ๆ ในฤดูแล้งที่จะมาถึง โดยให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริ โภคเป็นอันดับแรก รวมถึงป้องกันการยืนต้ นตายของไม้ผล ไปจนถึงการใช้น้ำในภาคอุ ตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศ โดยขอให้เกษตรกรติดตามข่ าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่ อลดความเสี่ยงของการเพาะปลู กจากฝนทิ้งช่วง
ทั้งนี้ กรมชลประทานยังได้มีการส่งเสริ มการปลูกข้าวเบาที่มีอายุสั้ นและเก็บเกี่ยวได้เร็ว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์ที่ สุด รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนพั ฒนาแหล่งน้ำของตนเองเพื่อรองรั บหากเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงด้ วย ทั้งนี้ การบริหารจัดการน้ำจะเป็นไปอย่ างรอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวเพื่ อสำรองน้ำไว้จนถึงปี 67 ให้ได้มากที่สุด เพื่อบริหารความเสี่ ยงหากสภาวะเอลนีโญเกิดขึ้นต่ อเนื่องไปจนถึงปี 68 ด้วย
ดร.สุรสีห์ กล่าวต่อีกว่า สำหรับพื้นที่ประสบภัยแล้ง ตามประกาศเขตการให้ความช่วยเหลื อผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เช่น อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เป็นต้น สทนช. ได้มีการติดตามสถานการณ์ และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้ความช่ วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยหากประชาชนในพื้นที่ใดได้รั บความเดือดร้อนจากปั ญหาการขาดแคลนน้ำ สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ที่ เพจเฟซบุ๊คของ สทนช. หรือแจ้งไปยัง สทนช.ทั้ง 4 ภาค โดยจะมีการติ ดตามตรวจสอบและประสานงานให้ ความช่วยเหลือเพื่อแก้ ไขและบรรเทาปัญหาโดยเร็วที่สุด
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ