กรมวิชาการเกษตร ผนึก 4 สมาคมปุ๋ย หาแนวทางลดขั้นตอนขึ้นทะเบียนปุ๋ย

  •  
  •  
  •  
  •  
กรมวิชาการเกษตร ผนึก 4 สมาคมปุ๋ย จัดประชุมทำความเข้าใจแนวทางจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมีมุ่งอำนวยความสะดวกพร้อมลดขั้นตอนขึ้นทะเบียนปุ๋ย

       วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมชี้แจง “แนวทางการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมี” ณ ห้องแกรนด์บอลล์รูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์  กรุงเทพฯ  ซึ่งการจัดประชุมชี้แจงในครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างสมาคมที่เกี่ยวกับธุรกิจและการค้าปุ๋ย ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทย  สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย  สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย และ กรมวิชาการเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำคำ ขอขึ้นทะเบียนและหนังสือรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม

นายระพีภัทร์  กล่าวว่า ในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมีความจำเป็นที่จะต้องมีการประสานการทำงาน ทำความเข้าใจร่วมกัน ของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น การพูดคุย และร่วมมือกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมคุณภาพของปุ๋ย  ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญในการเกษตร  จึงเป็นภารกิจที่สำคัญต่อภาคเอกชนและภาครัฐ โดยกรมวิชาการเกษตรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานดังกล่าว และได้พยายามพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อให้ภาคเอกชนได้รับความสะดวก เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วย ความโปร่งใส


                                                                      ระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์
กรมวิชาการเกษตร จึงได้มีการพัฒนาระบบบริการออนไลน์เป็นระบบใหม่เพื่อให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมศุลกากร  แต่ในช่วงเริ่มใช้ระบบบริการออนไลน์ระบบใหม่ เมื่อต้นปี 2564 ประกอบกับเป็นช่วงโรคโควิดระบาด และมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ เกี่ยวกับปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม เมื่อปลายปี 2564  จึงทำให้มีการยื่นคำขอเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาความล่าช้าในการตรวจสอบคำขอ  แต่ได้มีการหารือร่วมกันทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ จนเกิดแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร  และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้าและธุรกิจปุ๋ยเคมี ได้แก่ สมาคมการค้าและธุรกิจเกษตรไทย   สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทย นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคม คนไทยธุรกิจเกษตร ได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับการขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมีและการขอหนังสือ สำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมดังกล่าว ได้มีความเห็นร่วมกันว่า หากมีการทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประกอบคำขอ เพื่อยื่นขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมี จะช่วยให้ทั้งภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ภาครัฐสามารถดำเนินการออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี และหนังสือ สำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

       ดังนั้นจึงได้จัดให้มีการประชุมในวันนี้โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย ผู้ประกอบการเกี่ยวกับปุ๋ยซึ่งเป็น สมาชิกของสมาคมฯ ทั้ง ๓ สมาคม  รวมทั้งสมาชิกสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทยรวมจำนวนประมาณ ๒๐๐ ท่าน และเจ้าหน้าที่กลุ่มควบคุมปุ๋ยทำหน้าที่ชี้แจง รายละเอียดการจัดทำคำขอ  และเอกสารประกอบคำขอเพื่อยื่นขอขึ้นทะเบียนปุ๋ยเคมี หรือหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมี พร้อมทั้งมีการฝึกพิจารณาความถูกต้องของเอกสารดังกล่าว โดยในช่วงสุดท้ายเป็นช่วงการสรุปและอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นต่างๆในการจัดทำคำขอและเอกสารประกอบคำขอฯ ดังกล่าวด้วย

“หลังจากการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้มีการจัดทำคำขอและเอกสารประกอบคำขอได้ถูกต้อง ทำให้สามารถตรวจสอบ และออกใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ย และหนังสือสำคัญรับแจ้งปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงขอขอบคุณและชื่นชมสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจเกษตรไทย  สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย  สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร  และสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือกับภาคราชการในการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่ด้วยดีตลอดมา” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว