“ประวิตร”ล่องใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำที่ตรัง-พัทลุง

  •  
  •  
  •  
  •  

“ประวิตร”ลงใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง ไล่บี้กรมชลประทาน เร่งรัดการก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565  พร้อมมอบ สทนช.บูรณาการแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง ขณะที่ เลขา สทนช. แจงผลประเมินสถานการณ์น้ำภาคใต้มีปริมาณน้ำมากกว่าปี 64

วันที่ 8 สิงหาคม 2565 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนายการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ จ.ตรัง และ จ.พัทลุงว่า การลงพื้นที่จังหวัดตรังและพัทลุงในครั้งนี้ เพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน และรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนงานและผลการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากช่วงนี้ ภาคใต้กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน อาจมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมได้ จำเป็นต้องเตรียมการรับมือล่วงหน้าอย่างเข้มข้น

ขณะเดียวกัน ตนได้สั่งการให้กรมชลประทาน เร่งรัดการก่อสร้างโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565 นี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึง และเร่งรัดให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำตรัง รวมถึงช่องลัดและคันกั้นน้ำในปี 2567 โดยให้ สทนช. พิจารณายกระดับเป็นโครงการสำคัญด้วย อีกทั้งมอบหมายให้ สทนช. เร่งรัดการศึกษาผังน้ำและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำ เพื่อให้มีแผนในการบริหารจัดการน้ำร่วมกันทั้งในภาวะปกติ

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องมีการติดตามสถานการณ์ฝนเพื่อบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ แม่น้ำ เส้นทางน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ฝนปีนี้คาดว่าในช่วง เดือน ส.ค.- พ.ย.จะมากกว่าปีที่ผ่านมาแม้ไม่มากนัก แต่ สทนช.จะบูรณาการหน่วยงานภายใต้ กอนช.ประเมินติดตามสถานการณ์ฝน การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ รวมถึงผลดำเนินการมาตการทั้ง 13 รับมือฤดูฝนอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูฝนนี้ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด.