“ประวิตร” ถก 2 คณะอนุกรรมการด้านน้ำ เน้นเร่งแก้ไขปัญหาด้านน้ำในมิติต่างๆ ให้กับประชาชน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ภายใต้โครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ เพื่อเร่งพิจารณาก่อนเสนอ กนช. หวังแก้น้ำท่วม-ประชาชนเข้าถึงน้ำประปา
วันที่10 มิถุนายน 2565 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2565 และการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 2/2565 ณ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร และ จ.ปัตตานี เป็นต้น
พลเอก ประวิตร กล่าวว่า การประชุมทั้ง 2 คณะอนุกรรมการฯ ในวันนี้ เพื่อพิจารณาโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญและมีความพร้อม เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาด้านน้ำในมิติต่างๆ ให้กับประชาชน ตามกรอบการดำเนินงานแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยเฉพาะแผนงานพัฒนาระบบระบายน้ำและจัดการน้ำเสียบริเวณบึงมักกะสัน แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคูน้ำถนนวิภาวดีรังสิต ดำเนินการโดยกรุงเทพมหานคร มีแผนงานดำเนินโครงการเป็นระยะเวลา 4 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 – 2570) ประกอบด้วย 2 กลุ่มโครงการ ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาระบบระบายน้ำและจัดการน้ำเสีย บริเวณบึงมักกะสัน และคูน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิต และ 2. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำและถ่ายเทน้ำ บริเวณแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทั้งเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและจัดการน้ำเสีย ช่วงถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงและบึงมักกะสันไปจนถึงสนามบินดอนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมพื้นที่ 81.53 ตารางกิโลเมตร และสามารถลดความเสียหายจากการเกิดอุทกภัย โดยที่ประชุมเห็นขอบการดำเนินการโครงการและมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร หารือร่วมกับกรมทางหลวงและประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบและเกิดการยอมรับของทุกภาคส่วน
ส่วนโครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี ที่ดำเนินการโดย อบจ.ปัตตานี เป็นโครงการที่เกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล
มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเมืองต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้โมเดลสามเหลี่ยมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เน้นความมั่นคงด้านน้ำเป็นหลัก โดยเฉพาะน้ำประปาที่สะอาด เพียงพอ และครอบคลุมพื้นที่ มีแผนการดำเนินโครงการ 2 ปี (พ.ศ. 2567 – 2568)
ลักษณะโครงการประกอบด้วย โรงสูบน้ำดิบ 1 แห่ง โรงผลิตน้ำประปา 5 แห่ง และระบบโครงข่ายท่อประปาเพื่อส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอ ของ จ.ปัตตานี ได้แก่ อ.หนองจิก อ.แม่ลาน อ.โคกโพธิ์ และ อ.เมืองปัตตานี มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 30 ตำบล และมีประชาชนมากกว่า 240,000 คน ที่สามารถเข้าถึงน้ำประปาที่มีคุณภาพดี ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการและให้เสนอ กนช.พิจารณาให้ความเห็นชอบในการประชุมปลายเดือนมิถุนายน 2565 นี้
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้ติดตามผลการดำเนินงานภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ช่วงปี พ.ศ. 2561 ถึงปัจจุบัน และความก้าวหน้าการปรับปรุงแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยได้นำรายงานการศึกษากรอบแนวทางและพื้นที่เป้าหมายของ 22 ลุ่มน้ำ พ.ศ. 2564 และรายงานการศึกษาของหน่วยงานต่างๆ มาใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงแผนแม่บทฯ ด้วยแล้ว เพื่อให้แผนแม่บทฯ มีความครบถ้วนสมบูรณ์และเกิดการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานอย่างแท้จริง
รวมทั้งติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และโครงการที่สำคัญ อาทิ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองพัทยา ระยะที่ 1 โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี โครงการแก้มลิงทุ่งหิน จ.สมุทรสงคราม และโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำกิ จ.น่าน เป็นต้น เพื่อเร่งรัดการเตรียมความพร้อมของโครงการ ก่อนเสนอ กนช. พิจารณาต่อไป