กรมชลฯ คุมเข้มการใช้น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา เผย 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา “ภูมิพล-สิริกิติ์-แควน้อยบำรุงแดน -ป่าสักชลสิทธิ์” มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 12,973 ล้าน ลบ.ม. 52% ของความจุอ่างฯ รวมกัน น้ำใช้การได้ 35% ของความจุอ่างฯ เท่านั้น รวมกันวอนทุกฝ่ายร่วมกันประหยัดน้ำในช่วงแล้งนี้

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น 54,434 ล้าน ลบ.ม. (72% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 30,503 ล้าน ลบ.ม. (59% ของความจุอ่างฯรวมกัน) ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 10,692 ล้าน ลบ.ม. (48%)

เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 12,973 ล้าน ลบ.ม. (52% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 6,277 ล้าน ลบ.ม. (35% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปัจจุบันมีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 2,811 ล้าน ลบ.ม. (49%) สำหรับผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2564/65 ทั้งประเทศเพาะปลูกข้าวไปแล้ว 6.06 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 94.48 ของแผนฯ เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้ว 3.94 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 139.98 ของแผนฯ (แผน 2.81 ล้านไร่)

ทั้งนี้ ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ บริหารจัดการน้ำด้วยการหมุนเวียนน้ำในพื้นที่ให้ทั่วถึง เพื่อไม่ให้พื้นที่ที่เพาะปลูกข้าวได้รับความเสียหาย รวมทั้งเน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ ปี 2564/65 ทั้ง 8 มาตรการ อย่างเคร่งครัด พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของการประหยัดน้ำ เพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้