ประธานสภาเกษตรกรฯ เชียร์สุดๆ นโยบายเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ เผยตลอดระยะเวลาที่ปิดประเทศ กระทบทุกวงการอาชีพ แม้ภาคการเกษตรที่ถูกมองว่ากระทบน้อยแต่ความจริงได้รับความเดือดอย่างหนักผลผลิตไม่มีที่ขาย หนี้สินเพิ่มขึ้น มั่นใจหลังปลดล็อค เปิดประเทศสินค้าเกษตรจะมีที่ระบายเพิ่มมากขึ้น จะทรงผลดีต่อเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศ วอนทุกคนอย่าประมาท ต้องป้องกันเองตลอดเวลา 

      นายประพัฒน์  ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติสนับสนุนและเห็นด้วย  เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาทุกคนได้รับผลกระทบกันอย่างทั่วหน้า ต่างกันว่าจะมาก หรือน้อยเท่านั้น

     ฉะนั้นการเปิดประเทศจะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นบ้าง ที่สำคัญคือเกษตรกรที่ผลิตผลผลิตจะได้ค้าขายผลผลิต ผลิตภัณฑ์ได้บ้าง หรืออาจขายได้มากขึ้น ราคาก็น่าจะกระเตื้องขึ้น และยังเป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับผู้บริโภคโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้ามาบริโภคสินค้าเกษตร   

     อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายอมรับว่า ณ ตอนสถานการณ์ยากลำบากจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จนต้องประกาศปิดประเทศ หลายฝ่ายมองว่าภาคการเกษตรได้รับผลกระทบน้อยสุด  แต่แท้จริงแล้วเกษตรกรไทยส่วนใหญ่มีภาระหนี้สินก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นผลกระทบที่ตามมามากมาย

    มราเห็นชัดเจน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำลง การค้าขายก็ยากขึ้น ระบบโลจิสติกส์เป็นอุปสรรคมาก  หนี้สินยังคงอยู่พร้อมดอกเบี้ยถึงแม้จะพักชำระหนี้แต่รายได้น้อยถึงน้อยมากก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก จึงสนับสนุนและเห็นด้วยในการประกาศเปิดประเทศของรัฐบาล  

     “ก็อยากให้รัฐบาลเปิดประเทศนะ เห็นด้วยอยู่ แต่ว่ามาตรการในการป้องกันตัวเองที่เข้มข้นก็ควรดำเนินการต่อไป แล้วก็ขอฝากถึงพี่น้องเกษตรกรทั้งประเทศว่า อันดับแรกเรื่องมาตรการปกป้องตัวเองขอให้ดำเนินการให้เข้มข้นต่อไป เช่น การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน  การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ยังจำเป็นและให้ทำเป็นประจำอยู่ตลอด  รวมทั้งการเว้นระยะห่าง  ที่สำคัญคือการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงโดยไม่จำเป็นไม่ควรเข้า  ขอให้ดูแลตัวเองเป็นหลัก” นายประพัฒน์ กล่าว

      ประธานสภาเกษตรกรฯ กล่าวอีกว่า ที่เป็นห่วงเกษตรกร เนื่องจากถ้าติดเชื้อโควิด-19 แล้ว จะไม่ใช่เฉพาะตัวเองคนเดียว แต่จะลามทั้งครอบครัว ที่ขะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงทันที  สิ่งที่ตามมา การค้าขายก็ต้องหยุดชะงักลง ทุกคนจะเดือดร้อนกันหมดทั้งครอบครัว เพราะฉะนั้นป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด หากใครยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ให้เร่งไปฉีด อันนี้เตือนด้วยความห่วงใย เนื่องจากการแพร่ระบาดยังมีอยู่