“ประวิตร” สั่ง กอนช.เข้มแผนจัดการน้ำลุ่มน้ำมูล สกัดน้ำท่วมโคราช 

  •  
  •  
  •  
  •  

“ประวิตร” สั่งการ สทนช.ลงพื้นที่โคราชบูรณาการหน่วยงาน–จังหวัดพร้อมรับมือ หลังประเมินอีสานยังมีความเสี่ยงฝนตกหนัก ย้ำแผนบริหารน้ำเขื่อนลำพระเพลิง-ลำตะคองโดยถอดบทเรียนน้ำท่วมโคราชปี’63 ด้านเลขาฯ สทนช.เล็งดึงเส้นทางผังน้ำลุ่มน้ำมูลกำหนดจุดเสี่ยงท่วมเชื่อมข้อมูลศูนย์ข้อมูลน้ำจังหวัด ให้ประชาชนรู้ล่วงหน้า

     ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 ในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล จ.นครราชสีมา เพื่อเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนช่วงนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำเหมือนปีที่ผ่านมา

    เนื่องจากระยะนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีแนวโน้มฝนตกหนักในช่วงปลายเดือนกันยายนต่อเนื่องตุลาคม ที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องให้ความสำคัญ ติดตาม และวางแผนการบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ อย่างใกล้ชิด เครื่องจักรเครื่องมือต้องพร้อมใช้งาน รวมถึงการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ เพื่อสร้างการรับรู้เชิงพื้นที่ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด โดยเฉพาะการบูรณาการการบริหารจัดการภัยพิบัติที่ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ณ วันที่ 4 ก.ย. 64 พบว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคองมีปริมาณน้ำ 213 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 68 อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำ 100 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 64 อ่างเก็บน้ำมูลบนมีปริมาณน้ำ 99 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 70 และอ่างเก็บน้ำลำแซะมีปริมาณน้ำ 164 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 60 ซึ่งจากการคาดการณ์ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 64 จะมีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำตะคอง และเขื่อนมูลบน จ.นครราชสีมา

   สำหรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่า ทางจังหวัดได้มีแผนรับมือรองรับสถานการณ์ โดยตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรณีอุทกภัย ซึ่ง กอนช.จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลการคาดการณ์แนวโน้มปริมาณฝน น้ำในแหล่งน้ำ ผ่านศูนย์ข้อมูลทรัพยากรน้ำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นชุดข้อมูลให้หน่วยงานในพื้นที่ใช้ในการตัดสินใจในการวางแผนจัดการมวลน้ำก่อนเกิดผลกระทบ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตาม 10 มาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเขื่อนที่มีแนวโน้มปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม ขอให้ปรับปรุงเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน เพื่อรองรับฤดูฝนนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน วางแผนนำน้ำไปเก็บกักไว้ในแก้มลิง และลำน้ำธรรมชาติครอบคลุมพื้นที่ 3,000 ไร่ ประกอบกับเสริมศักยภาพของเขื่อนให้สามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูแล้ง ปี 2564/65 ได้ต่อไป