ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์
“ประวิตร” สั่ง กอนช. ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำ พื้นที่การเกษตรกรและนาข้าวเขตหนองจอก พร้อมให้ลงพื้นที่วางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมบางปูระยะยาวในวันที่ 8 กันยายน 2564 นี้
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)เปิดเผยว่า จากกรณีตัวแทนเกษตรกรร้องเรียนน้ำท่วมบริเวณคลองลำปลาทิว เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง อาจส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายได้นั้น ทางพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. มีข้อห่วงใยและได้สั่งการให้หน่วยงานภายใต้ กอนช. เร่งหาสาเหตุพร้อมแนวทางในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม พบว่าสาเหตุหลักทำให้พื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ทำให้การระบายน้ำออกสู่แม่น้ำนครนายกเป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกมีระดับสูงกว่าระดับน้ำภายในคลองประตูระบายน้ำ ขณะเดียวกัน ไม่สามารถระบายน้ำท่วมในเขตหนองจอกออกสู่อ่าวไทยผ่านจังหวัดสมุทรปราการได้ เนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วมบริเวณอำเภอบางบ่อ อำเภอบางพลี อำเภอบางเสาธง และอำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยเฉพาะบริเวณนิคมอุตสาหกรรมบางปู
ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการระบายน้ำที่ท่วมนาข้าวบริเวณคลองลำปลาทิว โดยกรมชลประทาน ดำเนินการปรับลดการระบายน้ำลงคลองแนวดิ่ง ตั้งแต่คลอง 1-17 และระบายน้ำออกทางคลองแนวขวาง ทั้งคลองรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองหกวาสายล่าง เพื่อระบายออกสู่แม่น้ำนครนายกและแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหลัก เพื่อลดมวลน้ำที่จะลงสู่คลองบางขนาก ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบในคลองนครเนื่องเขตและคลองพระองค์ไชยานุชิต ทำให้ระดับน้ำลดลง สามารถระบายน้ำในพื้นที่ได้ต่อไป
พร้อมเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกง โดยเบี่ยงทางน้ำผ่านทางคลองหกวาสายล่าง คลองบางขนาก คลองนครเนื่องเขต คลองประเวศบุรีรมย์ และคลองสำโรง ซึ่งมีศักยภาพในการสูบน้ำรวม 192 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาหนักอีกในช่วงนี้ คาดว่าภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่นาข้าวก็จะคลี่คลายลงไปในที่สุด
ทั้งนี้ กอนช. จะติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 8 กันยายน 2564 นี้ จะลงพื้นที่จริงเพื่อติดตามรับฟังสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขน้ำท่วมขังในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู โดยจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร กรมทางหลวง และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนนี้ไม่ให้เกิดซ้ำ รวมถึงวางมาตรการในการป้องกันผลกระทบในพื้นที่ระยะยาวด้วย