กรมชลฯจับมือหลายภาคส่วนเดินหน้าฝ่าวิกฤตแล้ง ยืนยันจะบริหารจัดการน้ำตามมาตรการที่วางไว้อย่างทั่วถึง

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมชลประทาน จับมือหลายหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอ พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำนาปีไปแล้ว เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด ยืนยันว่าจะบริหารจัดการน้ำตามมาตรการที่วางไว้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

      ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ปัจจุบัน (28 มิ.ย. 64) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 34,314 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 10,384 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 7,788 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 1,092 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งในขณะนี้มีการเพาะปลูกข้าวนาปี 64 ไปแล้วทั้งประเทศรวม 8.55 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 51 ของแผน เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพาะปลูกไปแล้ว 4.70 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 59 ของแผน

     ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นทางตอนบนของประเทศ แต่ส่วนใหญ่ยังคงมีฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย แต่ปัจจุบันมีพื้นที่หลายแห่งเริ่มประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในการผลิตประปา รวมไปถึงสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ส่งผลกระทบต่อน้ำดิบผลิตประปาของการประปานครหลวง(กปน.) ทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มจากแผนที่วางไว้ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้

     อย่างไรก็ตามทางกรมชลประทาน ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ตลอดจนรักษาระบบนิเวศและพื้นที่การเกษตรในหลายพื้นที่ของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภายใต้ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด และได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในพื้นที่ 22 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อชี้แจงประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ทุกภาคส่วนรับทราบอย่างต่อเนื่อง

   “กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าจะบริหารจัดการน้ำตามมาตรการที่วางไว้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้มีน้ำอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ ตลอดจนน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเพียงพอตามแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 64 หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา” ดร.ทวีศักดิ์ กล่าว