ระดมน้ำ 6 เขื่อนหลัก เติมน้ำลงแม่น้ำชี แก้วิกฤตน้ำประปาเมืองร้อยเอ็ดเค็ม

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                   ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำ 6 เขื่อนอีสานกลาง “อุบลรัตน์-เขื่อนลำปาว-เขื่อนชนบท-มหาสารคาม-วังยาง -เขื่อนร้อยเอ็ด” เพื่อเจือจางค่าคลอไรด์ของน้ำชีหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด จุดสูบน้ำดิบของการประปา หลังพบค่าความเค็มของน้ำประปาเมืองร้อยเอ็ดเกินมาตรฐาน

      ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังจากได้รับรายงานว่า ประชาชนเมืองร้อยเอ็ดได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำประปามีรสเค็มเป็นผลมาจากคลอไรด์ในน้ำสูง ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ดได้ประสานขอให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงแม่น้ำชีเพื่อเจือจางค่าคลอไรด์ในแม่น้ำชีบริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด

      ดังนั้นจึงสั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 6 ประสานไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 1.1 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. ทั้งเพื่อช่วยเติมน้ำลงลำน้ำพองและไหลไปลงแม่น้ำชีที่หน้าเขื่อนมหาสารคาม ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นวันละ 0.10 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนในแม่น้ำชีตั้งแต่เขื่อนชนบทจังหวัดขอนแก่น เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 0.24 ล้าน ลบ.ม.

      เขื่อนมหาสารคาม เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 3.10 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวังยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 3.86 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนร้อยเอ็ดระบายน้ำวันละ 4.21 ล้าน ลบ.ม. และรักษาระดับน้ำเก็บกักเขื่อนร้อยเอ็ดไว้ที่ +129.500 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับระบบสูบจ่ายน้ำดิบ จากการตรวจวัดค่าความเค็มบริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด จุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคาขาร้อยเอ็ด

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา พบว่าค่าความเค็มที่สูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว แต่ยังคงกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและค่าความเค็มในพื้นที่ร่วมกับการประปาฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำชีให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวร้อยเอ็ด