สทนช. พร้อมแล้ว ได้ฤกษ์รับจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ 1 เม.ย. นี้

  •  
  •  
  •  
  •  

 

                                                 

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์

สทนช. ได้ฤกษ์สู่มิติใหม่ในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ1 เมษายน 2564 นี้ ผ่าน 4 ช่องทาง ทั้งระบบออนไลน์ ยื่นด้วยตนเองที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมถึงส่งผ่านไปรษณีย์ มุ่งหวังเพิ่มกลไกการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเพื่อแก้ปัญหาด้านน้ำอย่างยั่งยืน

      ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2563 สทนช. ได้ดำเนินการสร้างการรับรู้เรื่องการจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำในทุกช่องทาง ทั้งในส่วนกลางและในระดับพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ชัดเจน และส่งเสริมให้ผู้ใช้น้ำในทุกภาคส่วนเกิดการตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญขององค์กรผู้ใช้น้ำ ในการสร้างการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมิติใหม่ของประเทศ

     ทั้งเพื่อเป็นการการปูพื้นฐานเตรียมความพร้อมในการยื่นคำขอจดทะเบียนขอรับรองความเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำให้ทุกขั้นตอนนี้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ประกอบกับ ปัจจุบันแบบคำขอจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ แบบหนังสือสำคัญการจดทะเบียนองค์กรผู้ใช้น้ำ  และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ดังนั้น สทนช. จึงพร้อมแล้วสำหรับการรับจดทะเบียนก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ โดยมีกำหนดเปิดรับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป

      สำหรับการจดทะเบียน ได้กำหนดให้กลุ่มบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่รวมตัวกันจำนวนไม่น้อยกว่า 30 ราย ตั้งตัวแทนไปยื่นคำขอจดทะเบียนก่อตั้งองค์ผู้ใช้น้ำต่อ สทนช. ในฐานะนายทะเบียน โดยเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง สทนช. จึงได้เปิดรับสมัครผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ 1. ทางเว็บไซต์ที่ https://twuo.onwr.go.th 2. สมัครด้วยตนเอง ที่ สำนักงาน สทนช. ส่วนกลาง อาคารจุฑามาศ (ในวันและเวลาราชการ) 3. สมัครด้วยตนเองที่ สำนักงาน สทนช. ภาค 1-4 ที่ จ.ลำปาง จ.สระบุรี จ.ขอนแก่น และ จ.สุราษฎร์ธานี (ในวันและเวลาราชการ) 4. ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ถึง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210  

     ภายหลังจากยื่นคำขอจดเทียนแล้วจะมีกระบวนการในการตรวจสอบข้อมูลประมาณ 30 วัน หากนายทะเบียนพิจารณาแล้วพบว่าข้อมูลที่ได้รับถูกต้องครบถ้วน จึงจะอนุมัติโดยมีการออกหนังสือสำคัญการจดทะเบียน เพื่อรับรองว่าเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 รวมทั้งจะมีการประกาศรายชื่อองค์กรผู้ใช้น้ำและเขตพื้นที่ดำเนินกิจกรรมขององค์กรผู้ใช้น้ำไว้โดยเปิดเผย ณ สถานที่ที่ผู้นั้นยื่นคำขอจดทะเบียน และทางอิเล็กทรอนิกส์ ต่อไป ทั้งนี้ องค์กรหรือกลุ่มผู้ใช้น้ำของหน่วยงานที่มีอยู่เดิมตามภารกิจ ก็จะต้องมายื่นขอจดทะเบียนก่อตั้งเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ด้วยเช่นกัน

      ดร.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า องค์กรผู้ใช้น้ำ ถือเป็นก้าวสำคัญซึ่งจะนำไปสู่มิติใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยในอนาคต โดยรัฐบาลมีความมุ่งหวังให้เป็นกลไกเพื่อยกระดับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง รวมถึงการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากองค์กรผู้ใช้น้ำจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการเกี่ยวกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในหมู่สมาชิกร่วมกันแล้ว ยังมีโอกาสที่จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการลุ่มน้ำในเขตลุ่มน้ำของตน

     นอกจากนี้ กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ ยังมีสิทธิได้รับการคัดเลือกไปเป็นกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) รวมทั้งสิ้นจำนวน 4 คน สามารถเสนอแนะ ให้ข้อมูลหรือความคิดเห็นต่อ กนช. เพื่อนำมาใช้ในการบริหารทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำของตนเองอีกด้วย สทนช. จึงขอเชิญชวนให้ ผู้ใช้น้ำทุกท่าน รวมตัวกันจดทะเบียนองค์กรผู้ใช้น้ำ เพื่อประโยชน์ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบต่อไป” ดร.สมเกียรติ กล่าว