ปลัดเกษตรฯ สั่งด่วนทุกหน่วยงานในสังกัด เร่งช่วยเหลือเกษตรกร-ประชาชนที่กระทบน้ำท่วมภาคใต้

  •  
  •  
  •  
  •  

ปลัดเกษตรฯ สั่งด่วนทุกหน่วยงานในสังกัด เร่งช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันทางภาคใต้ ล่าสุดอ่วมหนัก 8 จังหวัด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไปแล้ว 68 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 50 เครื่อง

     ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงข้อสั่งการที่ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันทางภาคใต้อย่างเร่งด่วน ว่า จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 – ปัจจุบัน จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช     สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา และจังหวัดนราธิวาส สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 2 จังหวัด ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา ตรัง และจังหวัดนราธิวาส

          ภาพที่ส่งต่อๅทางไลน์ : นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช พร้อม พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลอยคอลุยน้ำเอง 

     อย่างไรก็ตาม  ได้สั่งการไปยังเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด ดำเนินการติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง และประสานข้อมูลกับหน่วยงานในสังกัดเพื่อประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ความเสี่ยง และแจ้งเตือนไปยังเกษตรกรให้ทราบเพื่อเตรียมความพร้อม รวมทั้งให้ติดตามประกาศเตือนภัย และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยบูรณาการทำงานของหน่วยงานในสังกัด และประสานการปฏิบัติงานร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางและจังหวัด ในการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด

     ทั้งนี้ซึ่งจะต้องแบ่งพื้นที่ และมอบหมายผู้รับผิดชอบในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นผู้ประสานงาน เมื่อเกิดสถานการณ์ให้หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องเร่งประเมินความเสียหาย และความต้องการความช่วยเหลือของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยให้รายงานสถานการณ์ และประเมินผลกระทบด้านการเกษตร ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพื้นที่การเกษตรประสบภัย ส่งให้ศูนย์ติดตามฯ กระทรวง เป็นประจำทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย” ปลัดเกษตรฯ กล่าว

        ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบในเบื้องต้นไปแล้ว
โดยกรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 68 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 50 เครื่อง และเครื่องไฮโดรโฟวล์ 4 เครื่อง
กรมปศุสัตว์ จัดเตรียมเสบียงอาหารสัตว์ 5,567 ตัน ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 3,000 ถุง และทีมสัตวแพทย์เคลื่อนที่ 119 หน่วย ได้ดำเนินการอพยพสัตว์ 874 ตัว แจกจ่ายเสบียงอาหารสัตว์ จำนวน 17 ตัน (นครศรีธรรมราช 8 ตัน สงขลา 9 ตัน) สร้างเสริมสุขภาพสัตว์ 95 ตัว รักษาสัตว์ 63 ตัว และกรมประมง สนับสนุนเรือยาง 1 ลำ และรถยนต์บรรทุกหกล้อ 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ 21 นาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.สงขลา จ.พัทลุง และ จ.ปัตตานี รวมทั้งสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบอาหารและแจกจ่ายอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 400 กล่อง

        ” แม้ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนปกคลุมหัวเกาะสุมาตรา ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้” ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าว