“น้าสน”เดินหน้าป้องกัน“โควิด-19”เร่งปลดล็อคเอทานอลทำเจลล้างมือ โฆษกพลังงานโต้“วีระกร”ข้อมูลคลาดเคลื่อน

  •  
  •  
  •  
  •  

“สนธิรัตน์” ยืนยันกระทรวงพลังงานไม่นิ่งนอนใจ ป้องกันการระบาดของไวรัส “โควิด-19 “ ระบุที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วในหลายมาตรการ ล่าสุดร่วมมือกับกระทรวงการคลัง ให้ปลดล็อกเอทานอล ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ให้นำมาผลิตเป็นเจลล้างมือ ขณะที่โฆษกกระทรวงพลังงาน โต้ “วีระกร คำประกอบ” ข้อมูลคลาดเคลื่อน ชี้แอลกอฮอล์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงไม่สามารถผลิตเป็นเจลแอลกอฮอล์ หรือแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อทางการแพทย์ได้ เพราะได้ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงไปแล้ว ทำให้มีกลิ่นเหม็นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 

      วันที่ 13 มีนาคม 2563 นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานไม่นิ่งนอนใจถึงปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วในหลายมาตรการ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับกระทรวงการคลัง ให้สามารถนำเอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ที่เดิมใช้ในภาคอุตสาหกรรม ปลดล็อกให้สามารถนำมาผลิตเป็นเจลล้างมือ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนในขณะนี้ ซึ่งทุกโรงงานกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันทางปตท. และบางจาก กำลังเร่งผลิตเจลล้างมือ เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนกว่าล้านหลอดอีกด้วย ส่วนแอลกอฮอล์ที่นายวีระกร พูดถึงจำนวน 100 ล้านลิตรนั้น เป็นแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า Denatured Alcohol ที่มีการผสมน้ำมันเข้าไปเพื่อใช้สำหรับผลิตแก็สโซฮอล์ และกฏหมายห้ามใช้อย่างอื่นนายวัระกร คงเข้าใจผิด  

  

วัชระ กรรณิการ์

    วันเดียวกันนายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีที่ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวที่รัฐสภาเรียกร้องให้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศนโยบายเร่งด่วนปลดล็อคเงื่อนไขบางประการ เพื่อให้นำแอลกอฮอล์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งทราบว่ามีสต๊อกทั้งสิ้น 100 ล้านลิตร ออกมาจำนวน 50 ล้านลิตร เพื่อผลิตแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เพื่อวางจำหน่ายหรือแจกให้ประชาชน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส โควิค-19 ว่า นายวีระกร น่าจะเข้าใจผิดและข้อมูลคลาดเคลื่อนที่ระบุว่า มีแอลกอฮอล์ในสตอกจำนวนเป็นร้อยล้านลิตร เพื่อใช้ในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะแอลกอฮอล์ดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ผลิตเป็นเจลแอลกอฮอล์ หรือแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อทางการแพทย์ได้ เพราะถูกผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงไปแล้ว ทำให้มีกลิ่นเหม็นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนหรือผู้ใช้ได้ 

       ส่วนที่ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไม่ดำเนินการใดๆนั้น ความจริงแล้ว นายสนธิรัตน์ ได้หารือและประชุมร่วมกันกับกรมสรรพสามิต เมื่อวันที่ 9  มีนาคมที่ผ่านมา จนนำไปสู่ข้อสรุปและการประกาศของกรมสรรพสามิต ยกเว้นกฎเกณฑ์ เพื่อหาทางนำแอลกอฮอล์จากโรงงานผู้ผลิตเอทานอลทั่วประเทศจำนวน 26 แห่ง ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์ส่วนเกินจากการผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 1 ล้านลิตรต่อวัน นำมาผลิตเป็นเจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคสำหรับประชาชนในเร็ววันนี้

     นายวัชระ กล่าวขอบคุณนายวีระกร ที่ให้ความสำคัญ สนใจ และช่วยกันตรวจสอบการทำงานของกระทรวงพลังงาน แต่ควรมีการสอบถาม หรือตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้าน โดยปราศจากอคติอื่นใด ก่อน เพื่อไม่สร้างความสับสนของข้อมูลให้กับสังคมในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องการความร่วมมือ ร่วมใจกันแก้ปัญหาและลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชนด้วย