ซีพีเอฟ เดินหน้าสานต่อ “ คืนสุขผู้สูงวัย-จ้างแรงงานคนพิการในโครงการโรงเรียนไก่ไข่ฯ”

  •  
  •  
  •  
  •  

ซีพีเอฟ เดินหน้าสานต่อ “โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย” เข้าสู่ปีที่  10  เน้นช่วยเหลือผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการของบริษัท ที่ไม่มีลูกหลานดูแล ไร้ที่พึ่งพิง แบบช่วยเหลือตลอดชีวิตกว่า 800 ราย   พร้อมสัญญาจ้างงานคนพิการ ภายใต้ ”โครงการจ้างงานคนพิการ” ในโรงเรียนที่ร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อสร้างกำลังใจและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการให้ภูมิใจในคุณค่าของตัวเอง ล่าสุดจ้างงานคนพิการแล้ว 424 คน ใน 240 โรงเรียนทั่วประเทศ

        นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวระหว่างเดินทางไปส่งมอบโครงเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ปีที่ 30 ที่โรงเรียนบ้านดู่ (สหราษฎร์พัฒนาคาร) ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ก่อนหน้านี้ว่า ว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ยึดมั่นในค่านิยมองค์กร ที่ ท่านประธานอาวุโส คุณธนินท์ เจียรวนนท์ เน้นย้ำมาตลอด คือ ปรัชญาสามประโยชน์สู่ความยั่งยืน เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับตระหนักอยู่เสมอ ว่า ต้องทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท ในโอกาสที่ปีนี้ ซีพีเอฟและมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน นักเรียนเข้าสู่ปีที่ 30 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และแก้ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กและเยาวชนไทย

            นอกจากกิจกรรมมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนแล้ว คณะผู้บริหารของซีพีเอฟและมูลนิธิฯ ยังได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินดำรงชีพให้แก่ผู้สูงอายุ ในโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุข ผู้สูงวัย และมอบสัญญาจ้างงานคนพิการ ภายใต้ ”โครงการจ้างงานคนพิการ” ในโรงเรียนที่ร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งซีพีเอฟได้ดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรด้านการศึกษา สร้างกำลังใจและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการให้ภูมิใจในคุณค่าของตัวเอง โดยปัจจุบัน ซีพีเอฟมีการจ้างงานคนพิการ จำนวน 424 คน ช่วยงานในโรงเรียนใน 240 โรงเรียนทั่วประเทศ

      สำหรับ “โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย”ปีนี้ เข้าสู่ปีที่  10 ที่ ซีพีเอฟ สานต่อเพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการของบริษัท ที่ไม่มีลูกหลานดูแล ไร้ที่พึ่งพิงและเป็นการให้ความช่วยเหลือตลอดชีวิตไปแล้วมากกว่า 800 ราย   เพื่อให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และร่วมสร้างสังคมแห่งความกตัญญู   

         นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์    รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส  ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ  ในฐานะประธานคณะทำงานกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย กล่าวว่า  “โครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย”ปีนี้ เข้าสู่ปีที่  10 ซีพีเอฟ สานต่อ ช่วยเหลือผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการของบริษัท ที่ไม่มีลูกหลานดูแล ไร้ที่พึ่งพิงและเป็นการให้ความช่วยเหลือตลอดชีวิตไปแล้วมากกว่า 800 ราย   เพื่อให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และร่วมสร้างสังคมแห่งความกตัญญู 

 

    เน้นให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ไม่มีลูกหลานดูแล ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และไม่มีรายได้เพียงพอในการเลี้ยงชีพ ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  ซึ่งตลอด 9 ปีที่ดำเนินโครงการฯ ช่วยเหลือผู้สูงวัยรอบสถานประกอบการของบริษัทไปแล้วมากกว่า  800  ราย โดยสนับสนุนงบประมาณรวมมากกว่า  80 ล้านบาท และเป็นการให้ความช่วยเหลือตลอดชีวิต โดยในปี  2563 นี้  ได้พิจารณาคัดเลือกผู้สูงอายุรายใหม่เข้าโครงการเพิ่มเติมอีก        

            พร้อมกันนี้การมอบเงินช่วยเหลือเพื่อใช้ในการดำรงชีพทุกๆเดือนแล้ว  จิตอาสาของซีพีเอฟยังได้ไปเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุเป็นประจำทุกเดือน  เพื่อติดตามความเป็นอยู่  โดยเฉพาะในเทศกาลต่างๆที่มีโอกาสไปรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้สูงอายุซึ่งเปรียบเสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว  เช่น  เทศกาลปีใหม่  เทศกาลสงกรานต์  เป็นต้น นอกจากนี้  ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในพื้นที่ เช่น  อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม .)  โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) สถานีอนามัย   ลงพื้นที่ไปกับจิตอาสาซีพีเอฟเพื่อตรวจสุขภาพให้แก่ผู้สูงวัย ดูแลทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ

            ขณะที่ นางหนึ่ง ทะนงศรี ประธานอสม.หมู่ 8 ตำบลเจดีย์หลวง  อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย  เล่าว่า  ในชุมชนหมู่ 8 ต.เจดีย์หลวง มีผู้สูงอายุที่อยู่ในโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย จำนวน  3 ราย ซึ่งทั้งสามรายไม่มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ทางซีพีเอฟมอบเงินช่วยเหลือให้ทุกๆเดือน ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุได้อย่างมาก  และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุดีขึ้น อยากให้บริษัทฯทำโครงการนี้ไปนานๆ   เป็นโครงการที่ดีและช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ไม่มีที่พึ่งพิงได้จริง

      ส่วนนางกัลยา วราสินธุ์ ประธานกลุ่ม อสม. ตำบลดอนกระเบื้อง  อำเภอบ้านโป่ง    จังหวัดราชบุรี  ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อสม.มานานถึง 29 ปี เล่าว่า   อสม.มีหน้าที่ดูแลสุขภาพของคนในชุมชนและผู้สูงวัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ และในบางครั้งก็ช่วยเหลือในการซื้อของจำเป็น แต่อสม. มีกำลังทรัพย์ไม่พอที่จะให้ความช่วยเหลือได้อย่างต่อเนื่อง ซีพีเอฟมีโครงการกองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย มอบเงินช่วยเหลือผู้สูงวัย ทำให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น เป็นการช่วยเหลือคนที่ลำบากและสมควรได้รับการดูแล

      นางแก้ว แก้วหน่อเมือง ผู้สูงวัยในโครงการฯ ซึ่งอาศัยในพื้นที่หมู่  8   ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย  กล่าวว่า  ขอบคุณซีพีเอฟที่มอบเงินช่วยเหลือให้ทุกๆเดือน ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายได้มาก  ขาดเหลืออะไรทางเจ้าหน้าที่ก็จัดหามาให้  ตอนนี้ความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อยากให้มีโครงการอย่างนี้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงวัยไปอีกนานๆ 

     ซีพีเอฟ ริเริ่มโครงการ “กองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย”มาตั้งแต่ปี  2554 โดยพิจารณาคัดเลือกผู้สูงวัยเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมต่อเนื่องในทุกๆปี โดยมีเกณฑ์พิจารณาผู้สูงอายุที่ขอรับความช่วยเหลือใหม่  คือ  1. ต้องเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ  60 ปีขึ้นไป 2.เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมีห่างจากโรงงาน ฟาร์ม หรือสาขาของบริษัทไม่เกิน 5 กิโลเมตรและอาศัยอยู่มาไม่ต่ำกว่า 1ปี   3.ไม่เป็นผู้ติดสุรา ยาเสพติด และการพนัน  4.ฐานะยากจนและถูกทอดทิ้งหรือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่ปรากฎว่ามีรายได้ โดยตลอด  9 ปีของโครงการ  มีผู้สูงอายุที่ถึงแก่กรรม และบางรายมีลูกหลานที่รับไปดูแล  ซึ่งบริษัทฯมีการพิจารณาคัดเลือกผู้สูงอายุรายใหม่เพิ่มเติมเข้าโครงการในทุกปี