กมธ.การท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา ผลักดันชุมชนโคกสลุงใกล้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ชูเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นชาวไทยเบิ้งโคกสลุง ทั้งการแต่งกาย อาหารพื้นถิ่น เชื่อมโยงกับทางรถไฟลอยน้ำ ทุ่งหญ้าริมเขื่อนป่าสักช่วงฤดูแล้ง รวมถึงพิพิธภัณณ์พื้นบ้านไทยเบิ้งวัดโคกสำราญ และแหล่งหินทรายตัดโบราณ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชนด้วย
นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ในฐานะ ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ร่วมกับชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนตำบลโคกสูง นำเสนอปัญหาและแนวทาง แผนพัฒนาการท่องเที่ยวของ ตำบลโคกสูง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง ต่อคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวฯ ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายรัชพล เอื้อสลุง นายก อบต.โคกสลุง ตัวแทนชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนตำบลโคก กล่าวต่อที่ประชุมว่า โคกสลุงเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่มีอารยธรรม มีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ไม่น้อยกว่า 500 ปี ซึ่งเรียกตัวเองว่า ชาวไทยเบิ้งโคกสลุง โดยพบหลักฐานร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรือในอดีต ซึ่งชุมชนมีการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสาน วัฒนธรรมประเพณีไทยเบิ้ง จากรุ่นสู่รุ่น คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็น ชาวไทยเบิ้งโคกสลุง ทั้งการแต่งกาย อาหารพื้นถิ่น ภาษา ฯลฯ
นอกจากนี้พื้นที่ ตำบลโคกสลุง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งเช่น ทางรถไฟลอยน้ำ ทุ่งหญ้าริมเขื่อนป่าสักช่วงฤดูแล้ง พิพิธภัณณ์พื้นบ้านไทยเบิ้งบ้านโคกสลุง วัดโคกสำราญ แหล่งหินทรายตัดโบราณ รวมถึงแหล่งโบราณคดีต่างๆ โดยที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังพื้นที่ตำบลโคกสลุง มี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สนใจเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี ประวัติศาสตร์ ชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง กลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระ และ กลุ่มนักท่องเที่ยวแบบกลุ่มคณะ ที่เดินทางมากับรถไฟขบวนท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
“ที่ผ่านมายังมีปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาพื้นที่ เพราะพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานเช่น จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำและพนังกั้นน้ำ เป็นที่ราชพัสดุ, กรมชลประทาน, เขตห้ามล่าสัตว์ป่า, กรมเจ้าท่าเรือ แหล่งหินทรายตัดโบราณ เป็นของ กรมป่าไม้ รวมถึงงบประมาณสนับสนุนแผนงานท่องเที่ยว” นายก อบต.โคกสลุง กล่าว
พิศูจน์ รัตนวงศ์
ด้านนายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา กล่าวว่า โคกสลุงมีทรัพยากรทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ แต่การพัฒนายังติดขัด เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา พร้อมที่จะประสานให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อร่วมกันผลักดันให้โคกสลุงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เสริมสร้างศักยภาพของชุมชน และส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว ซึ่งการบูรณาการความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาโคกสลุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยคาดว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่
ขณะที่ ดร.จำลอง อนัตสุข สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา กล่าวว่า ชุมชนโคกสลุงตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างจริงจัง ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มแข็งของชุมชนและความตั้งใจที่จะอนุรักษ์วิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยเบิ้ง เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนโคกสลุงเป็นไปอย่างยั่งยืน ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนควรให้ความสำคัญกับการวางมาตรการด้านการรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความถูกสุขอนามัยอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ การสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง การให้ความสำคัญกับมาตรฐานต่างๆ ดังกล่าว จะช่วยยกระดับชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่น่าสนใจในระดับประเทศและนานาชาติ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยเบิ้งอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาของชุมชน