สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุ มเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภั ยและดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวั ดภูเก็ต ตามที่ได้รับมอบหมายจาก “รองนายกฯ ประเสริฐ” คาดฝนตกหนักในพื้นที่ถึงช่วงสิ้ นเดือน ต.ค. นี้ ก่อนจะตกน้อยลงแต่ต่อเนื่ องไปจนถึงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. 67
วันที่ 26 ตุลาคม 256) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมเตรี ยมการรองรับสถานการณ์อุทกภั ยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมุกอันดา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ดร.สุรสีห์ เปิดเผยว่า สทนช. ได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่ อหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ ยวข้องในการเตรียมรับมื อสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ ม ตามที่ได้รั บมอบหมายจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความห่วงใยสถานการณ์น้ำจั งหวัดภูเก็ตที่มีแนวโน้มมีปริ มาณฝนมากในระยะนี้ โดยกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบั นสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) คาดการณ์ว่า ตั้งแต่วันนี้จนถึงช่วงสิ้นเดื อน ต.ค. 67 จะมีฝนตกค่อนข้างมากในพื้นที่จั งหวัดภูเก็ต
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล
จากนั้นปริมาณฝนจะลดลงแต่ยั งคงตกต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสั ปดาห์แรกของเดือน พ.ย. 67 ทั้งนี้ ปัจจุบันภาพรวมของจังหวัดภูเก็ ตมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำต่าง ๆ ค่อนข้างมาก โดยมีปริมาณ 94% ของความจุทั้งหมด โดยกรมชลประทานได้ระบายน้ำเพื่ อพร่องน้ำออกจากอ่างฯ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นย้ำให้กรมชลประทานติ ดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ของอ่างฯ แต่ละแห่งอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอ่างฯ บางวาดซึ่งมีปริมาณน้ำ 95% ของความจุ ซึ่งได้มีการลงพื้นที่เพื่อติ ดตามสถานการณ์วานนี้ (25 ต.ค. 67) โดยมอบหมายให้มีการประเมิ นสถานการณ์และปรับแผนการระบายน้ำ ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ ไหลเข้าอ่างฯ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับปริ มาณฝนช่วงต่อจากนี้ พร้อมทั้งคำนึงถึงการกักเก็บน้ำ ต้นทุนสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ งและสนับสนุนการท่องเที่ยวของจั งหวัดด้วย
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกั บการเตรียมรับมือปัญหาดิ นโคลนถล่มเนื่องจากฝนตกหนัก ซึ่ง สทนช. ได้คาดการณ์พื้นเสี่ยงดิ นโคลนถล่มของจังหวัดภูเก็ตจนถึ งวันที่ 31 ต.ค. 67 ได้แก่ บริเวณตำบลราไวย์ กะรน เชิงทะเล และกมลา ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีได้ติ ดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่ างใกล้ชิด โดยจะมีการประสานงานร่วมกับจั งหวัดเพื่อแจ้งเตือนประชาชน โดยจังหวัดภูเก็ตได้มีการเตรี ยมความพร้อมในการติดตั้งเครื่ องมือและระบบสื่อสารต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการแจ้งเตื อนประชาสัมพันธ์ให้มีประสิทธิ ภาพมากที่สุด
นอกจากนี้ วานนี้ยังได้ลงพื้นที่เพื่อติ ดตามสำรวจพื้นที่เสี่ยงดิ นโคลนถล่มบริเวณเทศบาลตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งเคยเกิดเหตุดินโคลนถล่มเมื่ อช่วงเดือน ส.ค. 67 ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะไม่มีผู้พั กอยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าว แต่ได้มอบหมายให้มีการเฝ้าระวั งและแจ้งเตือนปิดเส้นทางสัญจรชั่ วคราวในช่วงที่มีความเสี่ยงเพื่ อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนด้วย และสำหรับในระยะยาว กรมทรัพยากรธรณีได้อยู่ระหว่ างการเสนอแผนเพื่อขอรั บงบประมาณในการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพรั บมือกับปัญหาดินโคลนถล่ม เร่งลดผลกระทบให้ประชาชน
“การบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมื ออุทกภัยในช่วงฤดูฝนของภาคใต้ปี นี้ จะเป็นการดำเนินงานร่วมกั นโดยเชื่อมโยงระหว่างศูนย์บริ หารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ณ จังหวัดยะลา และคณะกรรมการลุ่มน้ำในลุ่มน้ำ ของภาคใต้ เพื่อให้สามารถป้องกั นและลดผลกระทบต่อประชาชนได้อย่ างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่ วถึงทุกพื้นที่ โดยจะมีการบริหารจัดการน้ำเพื่ อรองรับปัญหาอุทกภัยและดิ นโคลนถล่ม ควบคู่ไปกับการกักเก็บน้ำเพื่ อเป็นน้ำต้นทุนไว้ใช้ให้เพี ยงพอในช่วงหลังสิ้นฤดูฝนด้วย นอกจากนี้ สทนช. จะเร่งขับเคลื่อนให้เกิดความมั่ นคงน้ำอย่างยั่งยืนในจังหวัดภู เก็ต เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำ ของประชาชน รวมทั้งช่วยสร้างความมั่นใจให้ แก่ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ ยวต่อไป” เลขาธิการ สทนช. กล่าว