มาปลูก“รวงผึ้ง”กันเถิด ต้นไม้ประจำพระองค์ท่าน ร.10

  •  
  •  
  •  
  •  

โดย…นายสวีสอง

                                                                 ที่มารูป : อุทยานราชพฤกษ์

           เนื่องในปีแห่งมหามงคล ปีพุทธศักราช 2562 ที่ประเทศไทยต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย และเป็นปีที่พสกนิกรชาวไทยทั้งปวงต่างปิติยินดี เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งถือเป็นพระราชพิธีที่สำคัญยิ่ง ทางเว็บไซต์ “เกษตรทำกิน” ขอเชิญชวนคนไทยปลูก “ต้นรวงผึ้ง” กันเถิด เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562

          “ต้นรวงผึ้ง” เป็นต้นไม้ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีดอกสีเหลืองอร่ามและสวยงาม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จะออกดอกช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมของทุกปี  ถือเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และผลิดอกช่วงวันพระราชสมภพพอดี (วันจันทร์ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2495 )จะเห็นได้ว่า ทุกคราเมื่อพระองค์เสด็จฯ กอปรพระราชกรณียกิจตามสถานที่ต่างๆ ก็จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้ เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราษฎรด้วย

            “ต้นรวงผึ้ง” (Yellow star) บ้างก็ว่า “ต้นน้ำผึ้ง” หรือ “สายน้ำผึ้ง”เป็นไม้หอมยืนต้นขนาดเล็กสูงเต็มที่ราว 8 เมตร เปลือกต้นที่เทาปนขาว   ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบมากในป่าทางภาคเหนือ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,2000 เมตร เป็นพันธุ์ไม้จัดอยู่ในพวกเดียวกับปอกระเจาและตะขบฝรั่ง    มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schoutenia glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm. อยู่ในอยู่ในวงศ์ MALVACEAE  ลำต้นแตกกิ่งก้านต่ำ เรือนยอดเป็นทรงพุ่มมน

            ใบ  เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับตามกิ่ง  รูปทรงรีแกมขอบขนาน กว้าง 2-3 ซม.ยาว 6- 10 ซฒ.โคนใบจะเบี้ยว ปลายใบแหลม สีของใบด้านเป็นสีเขียวแก่ แต่ใต้ใบเป็นสีอ่อนจะออกน้ำตาลนิดๆ

            ดอก ออกเป็นช่อกระจุกแน่นตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกมีกลีบเลี้ยงเชื่อมกัน ดอกบานพร้อมกันทั้งต้นสีเหลืองเข้มราวสีทองคำ สวยงามมาก ที่ปลายดอกแยกเป็น 5 แฉก มีเส้นผ่าสูนญ์กลาง ราวๆ 1.5 ซม. กลางดอกมีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ส่งกลิ่นหอมอ่อนทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงมืดค่ำจะหอมแรงขึ้น ดอกบานได้นานราว 7-10 วัน ออกดอก ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี

             ผล เป็นผลแห้ง ทรงกลมขนาด 0.5-1 ซม. มีขน เมื่อแก่จะไม่แตก

             การปลูกและการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด  การตอนกิ่ง และปักชำกิ่ง แต่การตอนกิ่ง เป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เวลาตอนต้องใช้กะปิ หรือฮอร์โมนเร่งรากด้วยจึงจะได้ผลดีปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสวยงามออกชอบดินร่วนซุย