กรมประมงระดมมันสมอง ถกฟื้นฟูการผลิตกุ้งทะเล เป้าให้ได้ 4 แสนตันในปี 66

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมประมง ระดมมันสมองจากผู้บริหารทุกภาคส่วนในสังกัด กำหนดทิศทางฟื้นฟูการผลิตกุ้งทะเลไทย ให้ได้ 4 แสนตัน ภายในปี 2566 หวังทวงคืนแชมป์ส่งออกที่หายไปอีกครั้ง

    วันที่ 5 มีนาคม 2565 กรมประมงจัดเวทีหารือ “แนวทางฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทย” ณ ห้องประชุมอานนท์ กรมประมง โดยมีการระดมทีมผู้บริหารร่วมกำหนดแผนเพิ่มปริมาณผลผลิตให้ได้ 4 แสนตัน ภายในปี 2566 หวังทวงแชมป์ส่งออกของโลกอีกครั้ง

     นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กุ้งทะเล นับเป็นสินค้าสัตว์น้ำที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมากโดยในอดีตอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่าแสนล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2553 มีปริมาณและมูลค่าการส่งออกมากที่สุด คือ 437,270 ตัน มูลค่าสูงถึง 101,116 ล้านบาท แต่ในปี 2564 มีปริมาณการส่งออกลดลงเหลือเพียง 201,592 ตัน คิดเป็นมูลค่า 55,893 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ปริมาณลดลงถึงร้อยละ 53.90 และมูลค่าลดลงร้อยละ 44.72
เลยทีเดียว

    ทั้งนี้มาจากเหตุการณ์ในช่วงปลายปี 2554 ที่ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคตายด่วน (AHPND/EMS)ซึ่งได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงต่อวงการอุตสาหกรรมกุ้งของไทยและผลผลิตภายในประเทศยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับปี 2553

    จากสภาวการณ์ดังกล่าว ทาง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มอบหมายให้กรมประมงเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลให้มีผลผลิต 400,000 ตัน ภายในปี 2566 เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำการผลิตในตลาดโลกได้อีกครั้ง

    อย่างไก็ตาม กรมประมงได้รับสนองนโยบายฯจึงได้จัดการประชุมเพื่อหาแนวทางการฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทยให้ได้ตามเป้าหมาย โดยได้เชิญผู้บริหารระดับสูงของกรมประมงรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีพื้นที่การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลรวม 35 จังหวัดร่วมระดมสมองกำหนดทิศทางและวางแผนในการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิตเพื่อฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทยให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

    “เรามุ่งให้ความสำคัญและเข้มงวดกับการแก้ไขปัญหาเรื่องโรคที่เกษตรกรเผชิญอยู่ โดยเน้นกระบวนการผลิตสินค้ากุ้งทะเลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษามาตรฐานการผลิตตามระบบสากล พร้อมนำอุตสาหกรรมกุ้งทะเลของไทยกลับมาทวงความเป็นผู้นำในการส่งออกอีกครั้ง” นายเฉลิมชัย กล่าว

    อธิบดีกรมประมง กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเกษตรกรมีการแจ้งประกอบกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล จำนวน 40,983 ราย มีพื้นที่การเพาะเลี้ยงประมาณ 224,418 ไร่ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงบางส่วนประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าอาหาร ค่าพลังงาน ค่าสารเคมี เป็นต้น และยังมีต้นทุนแฝงจากการเกิดโรคกุ้งทะเล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดน้อยลง

     ที่สำคัญ ในภาพรวมได้ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสทางการแข่งขันในตลาดโลกอีกด้วย โดยกรมประมงเชื่อมั่นว่าแผนปฏิบัติการที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ จะนำไปขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทยให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว