สารเร่งเนื้อแดงลามถึงโคขุนกันแล้ว ช่วยจับตาดูด้วย…อันตรายต่อผู้บริโภค

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

เมื่อก่อนเราเคยแต่พบเห็นการใช้สารเร่งเนื้อแดงในวงการเลี้ยงสุกร หรือหมู ตอนนี้ลามแล้วครับ ลามมาถึงวงการเลี้ยงโคขุนกันแล้ว เพราะการเลี้ยงโคขุนส่วนใหญ่จะให้อาหาร ทั้งอาหารข้นและอาหารหยาบในการเลี้ยง ปัจจุบันนี้อาหารสัตว์ราคาแพงมาก จึงนำสารเร่งเนื้อแดงมาผสมเพื่อเป็นการลดต้นทุน โดยที่เกษตรกรบางราย อาจนำสารเร่งเนื้อแดงไปผสมในอาหารสัตว์

วัตถุประสงค์ก็เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ลดปริมาณไขมันในเนื้อสัตว์ ตลอดจนเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ และทำให้เนื้อสัตว์สีแดงน่าบริโภค แต่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งเมื่อบริโภคแล้วส่งผลทำให้กล้ามเนื้อสั่น กระตุ้นการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระวนกระวาย วิงเวียนปวดศีรษะ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคลมชัก โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ตลอดจนหญิงมีครรภ์ จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับอันตรายจากสารเร่งเนื้อแดงที่ตกค้างในเนื้อสัตว์เป็นอย่างมาก และเกษตรกรเองที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงก็ผิดกฎหมายด้วย

ล่าสุดกรมปศุสัตว์ออกมาเตือนผู้เลี้ยงโคขุนแล้วครับ ให้ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง เนื่องจากมีโทษตามกฎหมาย อันตรายต่อผู้บริโภค และหารือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อออกมาตรการ คุมเข้มห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงแล้วครับ และกรมปศุสัตว์พร้อมบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปกป้องสุขภาพผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้าในการส่งออกโคด้วย

น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์

ทั้งนี้นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกว่า ได้หารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้แก่ สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงโคพันธุ์บราห์มัน สมาคมผู้บำรุงพันธุ์ โคพันธุ์บราห์มันแห่งประเทศไทย สมาคมโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน สหกรณ์โคเนื้อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน จำกัด สมาคมบีฟมาสเตอร์แห่งประเทศไทย สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด สหกรณ์การเลี้ยง ปศุสัตว์กรป.กลางโพนยางคำ จำกัด สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยฯ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ บริษัท อิบรอฮิม แอนด์ บีฟ จำกัด บริษัท นิดา ฟู้ด จำกัด รวมถึง ผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อร่วมกันพิจารณามาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง โดยได้กำหนดมาตรการ ดังนี้

– สอดส่องและจับกุมการขายสารเร่งเนื้อแดงผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตั้งทีมเฉพาะกิจทางไซเบอร์ขึ้นมาดำเนินการ

– สุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อโคเพื่อตรวจหาการตกค้างของสารเร่งเนื้อแดง หากพบจะตรวจสอบย้อนไปยังฟาร์มเลี้ยงโคและแหล่งผลิต

– สุ่มเก็บตัวอย่างปัสสาวะในโคขุนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยใช้ชุดทดสอบภาคสนาม (strip test) เพื่อตรวจสอบการใช้สารเร่งเนื้อแดง

ที่ผ่านมาอธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกว่า ได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ 11 คดี มีโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้นจึงขอเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุน ห้ามนำสารเร่งเนื้อแดงมาใช้ในการเลี้ยงโค นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้วยังส่งผลที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอีกด้วย และหากประชาชนพบเห็นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการใช้สารเร่งเนื้อแดงในโค ให้แจ้งเบาะแสผ่าน Application DLD 4.0 หรือผ่านทางศูนย์รับข้อร้องเรียนกรมปศุสัตว์ โทรศัพท์ 02 6534444 ต่อ 2134

ช่วยๆกันครับ!! หากพบเบาะแสการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงโคขุน รีบแจ้งไปยังศูนย์รับข้อร้องเรียนกรมปศุสัตว์ทันที่เลยครับ!!