สมาคมผู้เลี้ยงหมูฯ ตระเวนเดินสาย ยื่นข้อเรียกร้องห้างค้าปลีก ค้ าส่ง 5 แห่ง วอนให้จัดระเบียบตั้งราคาขายไม่ กระทบราคาสุกรหน้าฟาร์มแลัให้ใช้เป็นบรรทั ดฐานในการอยู่ร่วมกันของผู้เลี้ ยงและผู้จำหน่ายเนื้อสุกรตามห่ วงโซ่อุตสาหกรรมสุกร
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า สมาคมฯ เตรียมเดินสายพบห้างค้าปลีกค้ าส่ง 5 แห่ง ขอจัดระเบียบกำหนดแนวทางตั้ งราคาขายเนื้อหมูตามโครงสร้างต้ นทุนฟาร์ม เพื่อไม่ให้กระทบราคาหน้าฟาร์ม โดยขอให้ใช้เป็นบรรทั ดฐานในการอยู่ร่วมกันของผู้เลี้ ยงสุกรและผู้จำหน่ายเนื้อสุกรซึ่ งเป็นต้นน้ำและปลายน้ำของห่ วงโซ่อุตสาหกรรมสุกร
“การเลี้ยงสุกรและการจำหน่ ายเนื้อสุกร มีความเชื่อมโยงกันตลอดห่วงโซ่ อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้ งราคาจำหน่ายของห้างค้าปลีกในปั จจุบันนั้น มีผลกระทบโดยตรงต่อราคาหน้าฟาร์ มของเกษตรกร สมาคมฯ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดู แลเกษตรกรและผู้ประกอบการเลี้ ยงสุกร ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการตั้ งราคาขายของห้างค้าปลีก เพราะที่ผ่านมาเกิดปรากฎการณ์ดั งกล่าวขึ้นแล้วในช่วงที่มีหมู เถื่อนระบาดอย่างหนักและห้ างบางแห่งจัดรายการโปรโมชั่นชิ้ นส่วนเนื้อหมูในราคาต่ำมาก เป็นเหตุให้เกษตรกรถูกผู้ค้าหมู นำมาใช้อ้างอิงเพื่อกดราคาหมู หน้าฟาร์ม จนเกษตรกรเดือดร้อนต้องขายหมู ขาดทุน” นายสิทธิพันธ์ กล่าว
สำหรับรายละเอียดข้อเรียกร้ องที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่ งชาติ เสนอเป็นแนวทางการหารือ ประกอบด้วย 1. สมาคมฯ จะเสนอให้กรมปศุสัตว์ ออกระเบียบการระบุฟาร์มต้นทาง แหล่งที่มาของเนื้อสุกรที่ วางจำหน่ายปลีก ณ จุดจำหน่ายในกลุ่มสินค้าเนื้อสุ กร ปศุสัตว์ OK และขยายไปถึงเนื้อสุกรทั่วไป
2. ขอให้ห้างค้าปลีกตั้งราคาจำหน่ ายปลีก ส่วนเนื้อแดงไม่ต่ำกว่า 1.8 เท่า ของราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม 3. สมาคมฯ จะส่งข้อมูลการคาดการณ์ต้นทุ นการผลิตสุกร ของคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ต้นทุ นการผลิตสุกร ให้ทราบทุกไตรมาส เพื่อใช้เป็นตัวตั้งต้ นประกอบเกณฑ์ร่วมของผู้ค้าส่ง ค้าปลีกที่จะนำมาซึ่งจำนวนเท่ าของการตั้งราคาจำหน่ายปลีกชิ้ นส่วนเนื้อแดง ในไตรมาสนั้นๆ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบย้อนกลั บไปยังราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิ ตหน้าฟาร์ม ที่จะเป็นเหตุให้เกิดการขายต่ำ กว่าต้นทุนการผลิต
4. กรณีที่มีการตรวจพบว่าห้างค้าส่ งค้าปลีกใดที่มีการตั้งราคา ตามจำนวนเท่าที่นำไปคูณ ต่ำกว่าที่ตกลง สมาคมจะมีหนังสือเตือน หากไม่มีการแก้ ไขในการกำหนดราคาจำหน่ายปลีกให้ เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ตกลงกัน สมาคมฯ จะยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสิ นค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ต่ อไป
การเสนอแนวทางกับห้างค้าส่งค้ าปลีกดังกล่าวข้างต้น สมาคมฯ จะรายงานให้ส่วนราชการที่เกี่ ยวข้องรับทราบ รวมทั้งในส่วนของการลดต้นทุ นการเลี้ยง โดยเฉพาะการจัดโครงสร้างราคาวั ตถุดิบอาหารสัตว์ ให้เกิดความเป็นธรรมตลอดห่วงโซ่ ไปจนถึงผู้บริโภค