3 หน่วยงานผนึกกำลังบุกค้นห้องเย็นกลางเมืองมหาชัยได้ของกลางนับร้อยๆตันมูลกว่า 100 ล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  

ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมประมง กรมปศุสัตว์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคผนึกกำลัง บุกตรวจค้นห้องเย็นบริษัท เจ.พี. ห้องเย็น กลางเมืองสมุทรสาคร พบซากสัตว์ผิดกฎหมายนับร้อยตัน มูลค่ากว่า 100 ล้าน เจ้าหน้าที่อาหยัดไว้ เพื่อดำเนินคดีและขยายผลต่อไป

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อนและขยายผลเรื่อยมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าปศุสัตว์ ที่มีการขยายผลการดำเนินงานเรื่อยมา โดยมุ่งปราบอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการปกป้องผู้บริโภค และเกษตรกร พร้อมกับสั่งการให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำไปปฏิบัติทำทันทีให้เห็นผลภายใน 100 วัน

ล่าสุดวันที่17 ตุลาคม 2566 ได้รับรายงานว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมประมง กรมปศุสัตว์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำโดย นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตำรวจสอบสวนกลางฯ เข้าตรวจค้นบริษัท เจ.พี. ห้องเย็น จำกัด ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลโคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร พบว่าห้องเย็นแห่งนี้ มีการลักลอบกักเก็บเนื้อสัตว์นำเข้าจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ และกรมประมง เป็นล็อตใหญ่ เนื้อสัตว์ที่นำมากักเก็บไว้ยังเป็นเนื้อสัตว์ที่นำเข้าจากประเทศที่ไม่ได้มีการอนุญาตให้นำเข้ามาในประเทศไทย ขณะนี้กำลังตรวจสอบจำนวนอย่างละเอียด และจะรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

สำหรับห้องเย็นดังกล่าว ได้ขออนุญาตรับฝากสินค้าไว้กับกรมการค้าภายในเท่านั้น แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนห้องเย็นกักเก็บสินค้าปศุสัตว์สินค้าประมงกับกรมปศุสัตว์และกรมประมง ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบห้องเย็นดังกล่าว พบเป็นสถานที่รับฝากสินค้าแช่เยือกแข็ง โดยภายในมีห้องแช่แข็ง 3 ห้องเย็น มีเนื้อสัตว์หลายประเภทจากต่างประเทศ ได้แก่ ขาไก่/ปีกไก่ 360 ตัน หมูสามชั้น 300 กิโลกรัม เนื้อกระบือ 150 ตัน และขาหมู 24 ตัน วางแทรกระหว่างสินค้าประเภทปลาทูอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้อายัติสินค้าไว้เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มา พร้อมกับเรียกผู้ดูแลสถานประกอบการหรือเจ้าของสถานประกอบการ มาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ที่นำมากักเก็บไว้ภายใน และจะต้องทำการขยายผลถึงผู้ที่นำมาฝากแช่แข็งอีกด้วย เพื่อนำผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็น  บริษัท เจ.พี. ห้องเย็น จำกัด ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า รายการสินค้าผิดกฎหมายที่ตรวจพบภายในห้องเย็น จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย เนื้อกระบือ โคเนื้อ ขาไก่/ปีกไก่ หมูสามชั้น และขาหมู วางแทรกระหว่างสินค้าประเภทปลาทูอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้อายัติสินค้าไว้เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มา พร้อมกับเรียกผู้ดูแลสถานประกอบการหรือเจ้าของสถานประกอบการมาสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ที่นำมากักเก็บไว้ และจะต้องทำการขยายผลถึงผู้ที่นำมาฝากแช่แข็งอีกด้วย เพื่อนำผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“สินค้าเนื้อเถื่อนผิดกฎหมายที่ทำให้บิดเบือนกลไกตลาดและสร้างความเสียหายกับทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย ซึ่งมูลค่าในการตรวจพบครั้งนี้พบความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และได้สั่งกำชับการเข้าปฏิบัติการทุกครั้งให้กระทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง โดยประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เช่น ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากการปราบปรามทุกครั้งที่ลงพื้นที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ และขอยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าในการปราบปรามเนื้อเถื่อนที่ผิดกฎหมาย” นายไชยา กล่าว