ได้มาแล้ว !! ควายงามชิงแชมป์ประเทศไทย

  •  
  •  
  •  
  •  

ผลออกมาแล้วควายงามชิงแชมป์ประเทศไทย จากการประกวดในนงานเกษตรแฟร์ ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันประจำปี 2565 ณ จังหวัดร้อยเอ็ด  ควายตัวเมีย “ดาวเรือง” จากแพรวาฟาร์ม ส่วนควายตัวผู้ “ป๊อก 9”  จากภาคินฟาร์ม งานอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานมอบรางวัลเอง

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 สิงหาคม2565 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานมอบรางวัลประกวดควายงามชิงแชมป์ประเทศไทย ในงานเกษตรแฟร์ ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่6-8 สิงหาคม ณ  อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด


การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการพัฒนาการตลาดควายไทยและอนุรักษ์ควายไทยพื้นเมือง มุ่งหวังส่งเสริมให้เกษตรกรในจังหวัดร้อยเอ็ดมีการปรับปรุงพันธุกรรมของควายไทย ให้มีคุณภาพดีขึ้น เป็นการเผยแพร่พันธุ์ควายไทยในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป สร้างความภูมิใจในอาชีพของตนเองและสืบทอดอาชีพการเลี้ยงควายไทยจากรุ่นสู่รุ่น ให้เกษตรกรคนรุ่นใหม่หันมาเห็นความสำคัญกับการผลิตควายไทยคุณภาพทั้งการจัดการเลี้ยงดู การคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์ และร่วมกันอนุรักษ์ควายไทยมากยิ่งขึ้น

อีกทั้ง เพื่อเป็นการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มของควายไทย กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับควายไทย นิทรรศการแนะนำผลงานจากอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างเป็นต้น

ภายในงานมีพิธีสู่ขวัญควาย ,การโชว์ควายเผือกและควายแคระแสนรู้ และ การประกวดควายไทย ทั้งนี้ มีควายงามเข้าประกวด จำนวนมาก ประเภทของการประกวดประกอบด้วย ได้แก่1.รุ่นฟันน้ำนม2.รุ่นฟันแท้ 1-2 คู่ 3.รุ่นฟันแท้ 3คู่ขึ้นไป ทั้งเพศผู้และเพศเมีย และแกรนด์แชมเปี้ยน เพศผู้และเพศเมีย

ผลการประกวดกระบือเพศเมียรุ่นควายสาว อายุ 31 – 36 เดือน (ฟันแท้ 2 คู่)
-รางวัลชนะเลิศ กระบือชื่อดาวเรือง จากแพรวาฟาร์ม
-รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กระบือชื่อมะลิ จากแพรวาฟาร์ม
-รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 กระบือชื่อดอกคูณ จากสกลพานิชย์ฟาร์ม
ผลการประกวดกระบือเพศผู้ รุ่นควายหนุ่มอายุ 31 – 36 เดือน (ฟันแท้ 2 คู่)
-รางวัลชนะเลิศ กระบือชื่อป๊อก 9 จากภาคินฟาร์ม
-รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 กระบือชื่อทองอุดร จากแลนาฟาร์ม
-รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 กระบือชื่อช้างนาคาจากลังกาฟาร์มควายงามเมืองนาคา

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่ากรมปศุสัตว์ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและอนุรักษ์การเลี้ยงควายไทย เนื่องจากควายหรือภาษาทางการเรียกว่า “กระบือ” ที่รู้จักกันนี้ น้อยคนแล้วที่จะได้เคยเห็นตัวจริง ควายไทยถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญกับภาคเกษตรกรรมของไทยมาอย่างช้านาน คนไทยเทียมควายไถนามาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ทวด ด้วยความที่เป็นสัตว์ที่มีความอดทน ทนแดด ทนร้อน ทนสภาพอากาศแห้งแล้งได้ ทำให้กลายเป็นเครื่องมือไถนาชั้นดี ก่อนที่จะมีรถไถเกิดขึ้นมา การเดินทางในสมัยก่อนก็ยังใช้ควายเทียมเกวียน เพื่อทุ่นแรงในการเดินทางไกลอีกด้วย

ปัจจุบันควายไทยถูกลดความสำคัญลง จนกลายเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเท่านั้น นอกจากนี้กรมปศุสัตว์ยังให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรเครือข่ายผู้เลี้ยงควายขอให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการเลี้ยงควาย สู่อาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน ต่อไป