เกษตรฯชงครม.ของบฯกลางกว่า 700 ล้านบาท เยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรค “ASF”

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ ชง ครม.ขออนุมัติงบกลางปี 2565 กว่า 700 ล้านบาท เร่งรัดเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโรคอหิวาต์แอฟริกา และโรคระบาดระบาดในสุกรด่วน  ขณะที่กรมปศุสัตว์เดินหน้ามาตรการระยะยาวด้วยการผลักดันยกระดับมาตรฐานฟาร์ม “GFM” เพื่อป้องกันโรคระบาดในอนาคต

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและได้มีการพบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จึงสั่งการไปยังกรมปศุสัตว์ให้ดำเนินการควบคุมป้องกันโรค ASF อย่างเข้มงวดมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น และให้รายงานผลการดำเนินการมาที่ตนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปรากฏว่าสามารถควบคุมโรคได้อย่างดีจนถึงปัจจุบัน

                                                         เฉลิมชัย ศรีอ่อน

ล่าสุดพูดได้ว่าสามารถควบคุมโรค ASF ได้ในวงจำกัดแล้ว และเพื่อลดผลกระทบและความเสียหายเดือดร้อนกับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรจึงให้หาแนวทางมาตรการเยียวยาช่วยเหลือแก่เกษตรกรด่วนโดย ซึ่งปี 2565 ให้กรมปศุสัตว์เตรียมเสนองบกลางเพื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเร่งเยียวยาพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานลดความเสี่ยงต่อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและโรคระบาดร้ายแรงในสุกร เป็นงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท

ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการเพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการเตรียมความพร้อมรับมือต่อโรคมาโดยตลอด และภายหลังที่ประเทศไทยตรวจพบโรค ASF ครั้งแรกในวันที่ 11 มกราคม 2565 กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัด

จนปัจจุบันสถานการณ์ในภาพรวมของประเทศอยู่ในสถานะเฝ้าระวังซึ่งทำให้มาตรการการควบคุมโรคของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และมีประเทศฟิลิปปินส์มาศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในประเทศของตนต่อไป

                                                         สรวิศ ธานีโต

สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรประเด็นเงินชดเชยนั้น กรมปศุสัตว์ได้รับการอนุมัติงบประมาณ งบกลางสำหรับค่าชดใช้ราคาสุกรที่มาตั้งแต่ปี 2563 -2564 รวม 4 ครั้ง มีเกษตรกรที่ได้รับการเยียวยาแล้ว 9,796 ราย จำนวนสุกรที่ถูกดำเนินการลดความเสี่ยง 272,220 ตัว คิดเป็นเงิน 1,044,310,351.48 บาท และในปีงบประมาณ 2565 กรมปศุสัตว์ได้ขออนุมัติงบประมาณในส่วนดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 753,045,572.02 บาท แบ่งเป็นเงินค่าชดใช้ราคาสุกรที่ถูกดำเนินการลดความเสี่ยง ในช่วงเดือน ตุลาคม 2564 ถึง มีนาคม 2565 สำหรับเกษตรกรจำนวน 2,655 ราย เป็นจำนวนสุกร 65,076 ตัว เป็นงบประมาณ 249,945,572.02 บาท

ส่วนแผนการดำเนินงานลดความเสี่ยงเพื่อการป้องกันโรค ASF และโรคระบาดร้ายแรงในสุกรหรือหมูป่า (ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน 2565) ในเกษตรกรจำนวน 3,000 ราย ประมาณการจะมีสุกรทั้งสิ้น 60,000 ตัว ต้องใช้งบประมาณอีกจำนวน 503,100,000 บาท ซึ่งงบนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความรวดเร็วในการเบิกจ่ายเงินเยียวยาแก่เกษตรกรเนื่องจากมีงบประมาณสำหรับพร้อมจ่ายให้เกษตรกรทันที ซึ่งตอนนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่เนื่องจากวงเงินเกินกว่าหนึ่งร้อยล้านบาทขเสนอขออนุมัติ ครม. ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้ว กรมปศุสัตว์จะได้จ่ายโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรตามที่แจ้งไว้โดยตรงต่อไปโดยเร็ว

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันควบคุมโรคได้อย่างยั่งยืนนั้นได้กำหนดมาตรการระยะยาวคือ การผลักดันยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด (Good Farming Management: GFM) ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มมีระบบการป้องกันโรคและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP และจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. โครงการสานฝันสร้างอาชีพ และได้ทำงานเชิงรุกตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและพัฒนาวัคซีนโรค ASF ในสุกรโดยเร็วและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุดเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม  ขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรมั่นใจว่ากรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนท้ายสุดนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์โดยเคร่งครัด หากพี่น้องประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์ สามารถแจ้งกรมปศุสัตว์ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 หรือ Application DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง