เกษตร ชง FAO ขอรับรอง “วิถีการเลี้ยงควาย-เกษตรเชิงนิเวศที่ทะเลน้อย” เป็น “มรดกทางการเกษตรโลก”

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯยื่นชงองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ขอรับรอง “วิถีการเลี้ยงควายและเกษตรเชิงนิเวศในพื้นที่ทะเลน้อย” เป็น “มรดกทางการเกษตรโลก” ชี้เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากจนได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลกหรือ “Ramsar site” และมีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ FAO ในการเป็นมรดกทางการเกษตรอีกด้วย

ดร.ทองเปลว   กองจันทร์  ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ยื่นเอกสารขอรับรอง “วิถีการเลี้ยงควายและเกษตรเชิงนิเวศในพื้นที่ทะเลน้อย” เป็น “มรดกทางการเกษตรโลก” (Globally Important Agricultural Heritage System หรือ GIAHS) จากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือ FAO

ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวมีความสำคัญเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากจนได้รับการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลกหรือ “Ramsar site” และมีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ FAO ในการเป็นมรดกทางการเกษตรที่เน้นการอนุรักษ์มรดกทางการเกษตรโลกเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและพัฒนาเศรษฐกิจปกป้องและส่งเสริมการใช้ทางชีวภาพให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและยั่งยืนบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยมีวิถีชีวิตที่มีความเชื่อมโยงกับควายน้ำทะเลน้อยโดยสืบทอดการเลี้ยงควายมายาวนานมากว่า 250 ปี

สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยมีรายได้หลักจากการขายควายประกอบกับการทำประมงปลูกข้าวและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกระจูดด้านระบบนิเวศเมื่อถึงฤดูน้ำหลากน้ำในทะเลน้อยมีปริมาณสูงควายน้ำจะดำน้ำลงไปกินหญ้าใต้น้ำและพืชน้ำอย่างสายบัวใบบัวหรือสาหร่ายกระจูดซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศในการกำจัดวัชพืชและมูลของควายยังเป็นอาหารให้กับพืชและแพลงตอนซึ่งเป็นอาหารปลาและในส่วนของด้านวัฒนธรรมควายเป็นศูนย์รวมของความเชื่อมีพิธีกรรมและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับควายและทางเดินของควายนอกจากจะสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามยังช่วยป้องกันการเกิดไฟป่าอีกด้วย

ดร.ทองเปลว กล่าวอีกว่า ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนให้ผลักดันพื้นที่ชุ่มทะเลน้อย จ.พัทลุงเพื่อขึ้นทะเบียนมรดกทางการเกษตรโลกผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างไทย – FAO เมื่อปีพ.ศ. 2560 โดย FAO ได้สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญเพื่อจัดทำแผนงานและเอกสารข้อเสนอการขึ้นทะเบียน (GIAHS Proposal) และได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางการเกษตรโลกได้จะต้องมีองค์ประกอบครบตามหลักเกณฑ์ 5 ข้อได้แก่

1) ความมั่นคงด้านอาหาร/ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี 2) ความหลากหลายทางชีวภาพการเกษตร 3) ระบบความรู้/ภูมิปัญญาท้องถิ่นมีมาแต่ดั้งเดิม 4) วัฒนธรรมระบบคุณค่าและองค์กรทางสังคมและ 5) ลักษณะภูมิทัศน์/และภูมิทัศน์ทางทะเลโดยในปีพ.ศ. 2564 มีพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GIAHS แล้ว 62 พื้นที่จาก 22 ประเทศทั่วโลกทั้งนี้หากพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางการเกษตรโลกได้สำเร็จจะทำให้เกษตรกรและชุมชนได้รับประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวโอกาสทางการเกษตรการจ้างงานเพิ่มขึ้นรายได้เพิ่มขึ้นและการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ